หลีกเลี่ยงไว้! 9 ลักษณะการใช้ชั้นวางแบบผิดๆ ที่เจ้าของร้านอาจเผลอทำพลาด!!

การจัดวางสินค้ารวมถึงการเลือกใช้ชั้นวางให้เหมาะสมนั้นอาจะเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการคิดไม่ถึงและมองข้ามไป และนั่นอาจจะทำให้ร้านของคุณอาจจะถูกมองข้ามจากลูกค้าไปด้วย ดังนั้น การแก้ไขปัญหาในการจัดวางสินค้าอย่างเร่งด่วนจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ มาดูกันว่าคุณเผลอทำพลาดไปบ้างไหม

1.ความแตกต่างของชั้นวาง อาจทำให้ภาพรวมดูไม่เป็นระเบียบ

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ชั้นวางแบบใดสำหรับร้านค้าของคุณ เช่น ชั้นวางไม้ ชั้นวางลวด ชั้นวางกระจก หรือแม้แต่ชั้นวางพลาสติก ควรเลือกที่จะใช้ชั้นวางประเภทใดประเภทหนึ่งให้สม่ำเสมอกัน การมีชั้นวางไม้ ชั้นวางลวด หรือชั้นวางพลาสติกอยู่ข้างๆกันแบบสะเปะสะปะ อาจไม่ดีเท่าไหร่ เพราะมันจะดูไม่เป็นระเบียบและอาจทำให้ลูกค้าสับสน

แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถใช้ชั้นวางประเภทต่างๆ ในร้านของคุณได้คุณก็ยังสามารถทำได้โดยไม่มีปัญหา แต่สิ่งสำคัญคือต้องรักษาระดับความสม่ำเสมอ ความเป็นระเบียบให้ไปในทิศทางเดียวกัน เช่นการวางชั้นไม้ไว้ติดกัน วางชั้นวางลวดไว้ด้วยกันที่จุดต่างๆในร้าน เพื่อให้มีความเป็นระเบียบและสวยงาม

2.ชั้นวางของสวนทางกับภาพลักษณ์แบรนด์ของคุณ

การเลือกใช้ชั้นวางที่ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์สามารถช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้

ตัวอย่างเช่น หากแบรนด์ของคุณมีภาพลักษณ์ที่มีเอกลักษณ์และหรูหรา เช่น แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นชั้นนำ คุณสามารถเลือกใช้ชั้นวางที่ทำจากวัสดุหรูหรา เช่น กระจกหรือสแตนเลสเหล็ก เพื่อเสริมความหรูหราและสวยงาม หรือหากแบรนด์ของคุณมีภาพลักษณ์ที่มีความเป็นกลางและเป็นมิตร เช่น ร้านกาแฟชิคๆ คุณอาจพิจารณาใช้ชั้นวางที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้หรือวางพืชตกแต่ง เพื่อสร้างความเป็นกลางและบรรเทาใจให้กับลูกค้าของคุณ

สุดท้าย ควรให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างการเลือกใช้ชั้นวางที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์และการใช้งานในร้านค้าของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ชั้นวางสินค้าสกปรก

ถึงแม้ว่าคุณจะมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่สุดและการบริการลูกค้าที่ดีที่สุด หรือมีราคาที่น่าดึงดูดใจลูกค้า แต่ทั้งหมดอาจจะพังลงหากร้านค้าของคุณสกปรก

ดังนั้นร้านค้าควรระวังว่าลูกค้าจะไม่สนใจซื้อสินค้าในร้านค้าของคุณเมื่อชั้นวางสกปรกหรือผลิตภัณฑ์ของคุณเต็มไปด้วยฝุ่น ลูกค้าต้องการสถานที่ที่สะอาดและปลอดภัยเพื่อการช้อปปิ้งที่สบายใจ

ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับความสะอาดและความปลอดภัยของชั้นวางอย่างสม่ำเสมอ ทำความสะอาดชั้นวางบ่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและรักษาภาพลักษณ์ของร้านของคุณให้ดีที่สุดเสมอ

4.การติดตั้งชั้นวางที่ไม่ถูกต้อง

การติดตั้งชั้นวางที่ไม่ถูกต้องอาจเป็นอันตรายและเสี่ยงต่อความปลอดภัยของลูกค้าและสินค้าของคุณได้ เช่นการล้มลงของชั้นวางหรือการบาดเจ็บจากมุมแหลมคมที่ยื่นออกมาในทางเดินอาจทำให้ลูกค้าได้รับบาดเจ็บเมื่อพลังกระแทก และนั่นอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้านค้าของคุณด้วย

การรักษาความปลอดภัยและความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้น การติดตั้งและการบำรุงรักษาชั้นวางของคุณควรให้ความสำคัญ ปรับปรุงและตรวจสอบชั้นวางอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้ร้านค้าของคุณมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย สะอาด และมีความเป็นระเบียบที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าของคุณ

5.วางอุปกรณ์กระตุ้นการขายอย่างเกะกะ รกร้าน รกชั้นวางสินค้า

การวางอุปกรณ์กระตุ้นการขายอย่างเกะกะอาจทำให้มีความรก และสร้างความลำบากในการหยิบสินค้า เพื่อลดปัญหานี้ คุณอาจต้องการพิจารณาการวางอุปกรณ์ที่กระตุ้นการขายอย่างมีระเบียบ และพิจารณาการวางตำแหน่งอย่างชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้อย่างสะดวก ไม่รบกวนการหยิบจับสินค้าของลูกค้ามากเกินไป เช่น การใช้ป้ายโปรโมชั่นที่มีขนาดเหมาะสมและการวางตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้อย่างสะดวก เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีและสร้างความพึงพอใจของลูกค้า

6.ตรวจสอบป้ายราคา

เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดี คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าไม่เพียงแต่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังมีป้ายราคาที่ตรงกับสินค้าเหล่านั้นด้วย การมีป้ายราคาที่ชัดเจนและตรงตามสินค้ามีความสำคัญมาก เพราะมันช่วยให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาและทำการตัดสินใจในการซื้อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ป้ายราคาที่ชัดเจนยังช่วยลดความสับสน ไม่ต้องเดินมาถามแคชเชียร์ให้ยุ่งยาก นอกจากนี้คุณควรตรวจสอบว่าป้ายราคานั้นตรงกับสินค้าและป้ายราคามีความชำรุด ตัวเลขราคาชัดเจนหรือไม่ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

7.สินค้าอยู่ในตำแหน่งที่เอื้อมไม่ถึง

บางครั้งคุณมักจะเลือกใช้ชั้นวางที่สูงเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสินค้าให้มากขึ้น แต่ถ้าคุณวางสินค้าของคุณไว้ในตำแหน่งที่สูงจนเกินไป โอกาสที่ลูกค้าจะเอื้อมสินค้าถึงก็เป็นไปได้ยาก และอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่พอใจและไม่สะดวกเมื่อต้องการเลือกซื้อสินค้าของร้าน ดังนั้น คุณควรพิจารณาการวางสินค้าให้ถูกต้องบนชั้นวางโดยให้ความสำคัญกับการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบาย

8.การแบ่งประเภทผลิตภัณฑ์ของคุณแคบเกินไป (การแบ่งประเภทจำกัด)

การจัดประเภทผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกสำหรับร้านค้าของคุณเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจของคุณในฐานะผู้ค้าปลีก คุณควรรักษาความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือก เพราะถ้าคุณจำกัดประเภทของผลิตภัณฑ์ของคุณมากเกินไป ลูกค้าอาจหันไปสู่ร้านค้าอื่นที่มีการเลือกซื้อมากขึ้น

การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าของคุณในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนที่คุณจะพัฒนาแผนการจัดประเภทผลิตภัณฑ์ของคุณ คุณควรพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ที่มีผลต่อการวางแผนการจัดประเภทของคุณ เมื่อคุณมีประเภทสินค้าที่เหมาะสมบนชั้นวางแล้ว คุณจะมีโอกาสที่ดีกว่าในการทำให้ลูกค้าพอใจและดึงดูดให้พวกเขากลับมาอีกครั้ง

9. ไม่มีการวางผังชั้นวาง(SHELF)ในการจัดวางสินค้า

การมีชั้นวางที่ดีที่สุดและการจัดตำแหน่งของสินค้าอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร้านค้าของคุณดึงดูดและสร้างความสนใจจากลูกค้าได้มากขึ้น แต่การจัดวาง layout หรือผังชั้นวางหรือการวางแผนพื้นที่เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้คุณสามารถกำหนดจำนวนและตำแหน่งของสินค้าบนชั้นวางได้อย่างเหมาะสม

การวางแผนชั้นวางช่วยให้คุณสามารถมองเห็นรูปแบบการจัดตำแหน่งของสินค้าและช่วยให้คุณสามารถจัดเรียงสินค้าให้มีความเป็นระเบียบและมีสมดุลในการแสดงสินค้า นอกจากนี้ การวางแผนชั้นวางยังช่วยให้คุณสามารถสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นให้กับลูกค้า ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มยอดขายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ที่มา www.dotactiv.com