เทคนิค เปิดร้านขายเครื่องสำอางอย่างไร ให้ยอดขายปังๆ !

     เดี๋ยวนี้ตามชุมชนขนาดใหญ่หน่อยจะต้องมีร้านขายเครื่องสำอาง เพราะคนไทยยุคใหม่ ไม่ว่าหญิงหรือชาย หันมาใส่ใจกับความสวย ความงาม ความหล่อ และดูดีของตัวเองมากขึ้น ดังนั้นร้ายขายเครื่องสำอาง จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ

การจะเริ่มทำธุรกิจร้านขายเครื่องสำอางต้องคำนึงถึงสิ่งดังต่อไปนี้

     1. ต้องเริ่มต้นจากการมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางและเป็นคนรักสวยรักงามก่อน คนที่จะทำธุรกิจนี้ต้องมีความรู้ อย่างน้อยต้องพอตอบคำถามพื้นฐานให้กับลูกค้าได้ เมื่อลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้า และคำถามพื้นฐานนี่แหละจะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และจะนำพาลูกค้ามาเป็นลูกค้าประจำในโอกาสต่อไป

     2. ต้องมองทำเลออก ใช่ว่าทุกที่จะขายเครื่องสำอางได้ สถานที่ที่จะขายเครื่องสำอางได้ต้องเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เช่นใกล้ตลาดขนาดใหญ่ อยู่ในอำเภอ อยู่หน้าปากซอยที่มีป้ายรถเมล์คนเดินไปมา คนต้องพลุกพล่านเพียงพอ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องในห้างสรรพสินค้าเป็นต้น

     3. เงินลงทุน สิ่งแรกที่ต้องคิดคือเงินลงทุนในการตกแต่งร้าน ซื้อชั้นอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และสไตล์ของการตกแต่ง เงินทุนอีกก้อนหนึ่งคือเงินเพื่อไปซื้อสินค้า กุญแจความสำเร็จของการทำธุรกิจร้านเครื่องสำอางคือจะต้องมีสินค้าให้หลากหลายและดูแน่นร้าน แต่ไม่ควรมีสต๊อกให้มาก เพราะจะทำให้เงินจม

     4. การเลือกสินค้า ตรงนี้ต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มนิยมสินค้าจากต่างประเทศ แบรนด์หรือยี่ห้อไหนที่เขานิยมเราก็ต้องตามเทรนด์ให้ทัน

      5. มาตรฐานสินค้า การที่ร้านค้าจะอยู่รอดและเติบโตได้ สินค้าต้องมีมาตรฐาน และกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง นับเป็นกลุ่มสินค้าที่มีการลอกเลียนแบบได้ง่ายที่สุด ดังนั้นเวลาเราซื้อจากแหล่งผลิต เราต้องแน่ใจ มีการรับประกันคุณภาพ สินค้าไม่บุบสลาย ไม่หมดอายุ

     6. การบริการ เนื่องจากร้านค้าเรามีหน้าร้าน จึงมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาหาเราอยู่ตลอดเวลา เราหรือพนักงานขายของเราต้องมีความพร้อมในการต้อนรับลูกค้าด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถตอบคำถามต่างๆ ให้ลูกค้าได้อย่างกระจ่าง

     สามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ หรือหากเรามีระบบการขายออนไลน์ด้วย ก็ต้องสามารถตอบคำถามลูกค้าบนออนไลน์อย่างทันท่วงที เพราะหากปล่อยนานไป การขายบนออนไลน์จะไม่ประสบความสำเร็จ

     7. การทำการตลาดและโปรโมชั่น เนื่องจากยุคนี้ร้านขายเครื่องสำอางเกิดขึ้นมาก ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นที่ทางร้านจะต้องคิดหากลยุทธ์การตลาด การโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม เพื่อแนะนำสินค้าใหม่เข้าร้าน เล่นเพื่อล้างสต๊อกสินค้าเดิม ไม่ให้อยู่ค้างร้านจนนานจะเป็นปัญหาสินค้าหมดอายุ

     8. ห้ามนำสินค้าที่ไม่ผ่าน อย. มาขายในร้าน นอกจากไม่ได้มาตรฐานแล้ว เมื่อ อย.จับได้ ยังผิดกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อีก

 

5 เทคนิคควรจำ ก่อนทำธุรกิจร้านเครื่องสำอาง

     1. มีเงินอย่างเดียวไม่พอต้องมีความรู้ด้วย

     ถ้าคิดจะเปิดร้านเครื่องสำอางเราต้องรู้ลึกรู้จริงในการใช้เครื่องสำอาง วิธีการใช้ เพื่อให้สามารถแนะนำลูกค้าหรือเลือกสินค้ามาจำหน่ายในร้านได้ ลำพังการมีเงินทุนเปิดร้านหรือการจัดร้านให้สวยดูดี แต่เจ้าของร้านไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แนะนำลูกค้าไม่ได้ ซึ่งหากเราไม่มีส่วนนี้ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะทำธุรกิจให้เติบโตได้

     2. เรื่องจดทะเบียนเป็นสิ่งสำคัญ

     เนื่องจากร้านเครื่องสำอางนั้นเกี่ยวข้องกับสุขภาพผิวและสุขภาพร่างกายของผู้ใช้สินค้า การเปิดร้านขายเครื่องสำอางจึงต้องมีการยื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์ โดยให้ขอจดได้ที่เขต เทศบาล หรือ อบต.ในท้องที่ที่ร้านตั้งอยู่ โดยกรอกแบบฟอร์ม พร้อมแนบเอกสาร สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หลักฐานที่ตั้งร้าน และแผนที่ร้านโดยสังเขป

     นอกจากนั้น ถ้ากิจการจำเป็นต้องขออนุญาต จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใด ๆ เช่น อย.ที่ต้องขอกรณี ผลิต ขาย นำเข้า สินค้าเครื่องสำอาง ก็จำเป็นต้องดำเนินเรื่องนี้ด้วย

     3. เกาะกระแสความงามให้ทันยุคสมัย

     ร้านเครื่องสำอางที่จะไปรอดนั้นต้องมีการอัพเดทตัวเองตลอดเวลา เป็นคนที่ตามติดเทรนด์แฟชั่น เทรนด์การแต่งหน้า ต้องรู้ว่าตอนนี้เทรนด์ไหนกำลังฮิต เนื่องจากลูกค้าเองก็มีทั้งที่ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงแบบธรรมดา หรือบางคนก็ต้องการแต่งหน้าแบบแฟชั่น

     ซึ่งในฐานะเจ้าของร้านก็ต้องมีความรู้ด้านนี้พร้อมแนะนำลูกค้าได้ว่าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหนอย่างไร แนะนำว่าหากเราไม่ได้เป็นคนขายเอง และมีการจ้างลูกน้องก็ควรคัดพนักงานที่มีความรู้อย่างดีมาเป็นพนักงานขาย เพราะถือเป็นการทำให้ลูกค้าประทับใจได้ด้วย

     4. เปิดร้านแบบครบวงจร

     เปิดร้านเครื่องสำอางก็ใช่ว่าจะต้องขายแต่เครื่องสำอางอย่างเดียว ยุคนี้ต้องครบวงจรสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกความต้องการเช่น มีบริการรับผลิตครีม โดยเราอาจจะมีพันธมิตรเป็นโรงงานผลิต หรือการรับจ้างแต่งหน้าในงานต่าง ๆ รวมถึงอาจจะมีการเปิดคอร์สสอนแต่งหน้า

     ยิ่งร้านเรามีลูกเล่นที่หลากหลายมีบริการที่หลากหลายก็จะยิ่งดันแบรนด์ให้ดูน่าสนใจและคนก็จะพูดถึงธุรกิจของเรามากขึ้น

     5.  รู้จักแหล่งผลิตที่ดีมีคุณภาพควบคุมราคาได้

     การเปิดร้านเครื่องสำอางใช้เงินทุนเริ่มต้นพอสมควรหากเป็นร้านขนาดใหญ่อาจใช้เงินถึงหลักล้าน เริ่มตั้งแต่การจัดแต่งร้าน การวางระบบภายในร้าน และต้นทุนสำคัญคือผลิตภัณฑ์ ซึ่งผู้ลงทุนไม่อาจเลือกผลิตภัณฑ์แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งมาขายหากไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์นั้นๆ ส่วนใหญ่สินค้าในร้านจึงต้องมีหลากหลายแบรนด์เป็นตัวเลือกให้ลูกค้าซึ่งราคาต้นทุนสินค้าแต่ละยี่ห้อก็ถือว่าสูง ยิ่งยี่ห้อดังและมีหลายยี่ห้อเราก็ยิ่งต้องใช้ทุนมาก

     ดังนั้นหากต้องการลดต้นทุนส่วนนี้เราต้องมีแหล่งผลิตที่เราควบคุมราคาได้และต้องมีคุณภาพ ซึ่งเราอาจใช้ระบบการขอเครดิตนำสินค้ามาขายก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินภายหลัง นั้นก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกับผู้ผลิต ซึ่งผู้ผลิตบางรายหากตกลงกันดีๆ สินค้าตัวไหนขายไม่ได้ก็อาจจะรับซื้อคืนแต่ในราคาที่ต่ำกว่าทุนเพราะถือว่าเป็นค่าเสื่อมสภาพ

     แต่สำหรับเจ้าของร้านแล้วก็ถือว่าดีกว่าไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย นับเป็นวิธีบริหารจัดการที่น่าสนใจซึ่งก็อยู่ที่ประสบการณ์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญด้วย ทุกๆการทำธุรกิจไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องง่ายแม้สินค้าจะเป็นที่ต้องการของตลาดแต่คู่แข่งก็ย่อมมีมากตามไปด้วย

 

    ผู้ลงทุนต้องคิดเสมอว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้สินค้าและบริการจากร้านเรานั้นคือกลยุทธ์การตลาดที่เราต้องช่วงชิง คนที่จะประสบความสำเร็จได้จึงไม่ใช่แค่คนที่มีเงินแต่ต้องมีฝีมือในการทำตลาดด้วย

 

ที่มา www.cheechongruay.smartsme.co.th

       www.thaismescenter.com