ปัจจัยสำคัญในการดึงดูดและเก็บรักษาพนักงานให้ทำงานกับองค์กร นอกจากค่าจ้างเงินเดือนแล้ว เรื่องของสวัสดิการก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน องค์กรที่มีระบบการบริหารค่าจ้างและการบริหารสวัสดิการที่ดีจะเป็นองค์กรที่มีแรงดึงดูดให้พนักงาน อยากเข้ามาทำงานด้วยอย่างมาก เพราะพนักงานจะรู้สึกถึงความมั่นคงในชีวิตและความเป็นอยู่ของเขามากขึ้น เนื่องจากลำพังแค่เงินเดือนค่าจ้างเพียงอย่างเดียวนั้น มันอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตในยุคนี้
จากแนวโน้มของการบริหารค่าจ้างและสวัสดิการที่สำรวจทุกปี จาก Think People Consulting Compensation and Benefits Survey นั้นก็เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนว่า องค์กรที่มีการจัดสวัสดิการที่นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดไว้นั้นจะเป็นองค์กรที่พนักงานอยากเข้าไปทำงานด้วย ซึ่งก็จะทำให้องค์กรเหล่านี้ มีโอกาสได้คนเก่งเข้ามาทำงานมากขึ้น สำหรับองค์กรที่เริ่มมีความคิดว่าจะจัดสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงาน ก็เริ่มมีคำถามว่าแล้วองค์กรเราควรมีสวัสดิการด้านไหน ให้กับพนักงานบ้าง ผมขอให้แนวทางที่เข้าใจง่ายๆ ไว้ดังนี้ คือ เจ็บ จน แก่ ตาย อ่านแล้วอาจจะดูน่ากลัว แต่ก็น่าจะทำให้จำได้ง่ายขึ้น โดยขอแยกรายละเอียดประเภทสวัสดิการไว้ดังนี้
เจ็บ สวัสดิการด้านนี้ก็คือ เรื่องของสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของพนักงาน ที่เป็นลักษณะของการดูแลความเจ็บไข้ได้ป่วย ของพนักงานในองค์กร ทุกองค์กรมีสวัสดิการประกันสังคมให้กับพนักงานเป็นพื้นฐาน แต่องค์กรที่จัดสวัสดิการด้านนี้ เพิ่มเติมให้กับพนักงานก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ อาทิ
- ให้งบประมาณในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมจากประกันสังคม ในกรณีผู้ป่วยนอก
- ซื้อประกันสุขภาพให้กับพนักงาน โดยครอบคลุมทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
- จัดสวัสดิการป้องกันการเจ็บป่วย อาทิ การออกกำลังกาย ฟิตเนส ฯลฯ
จน สวัสดิการด้านนี้ก็คือ การช่วยเหลือเมื่อพนักงานเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของตนเอง อาทิ เมื่อเกิดปัญหาฉุกเฉินต่างๆ เช่น การเกิดภัยพิบัติทั้งทางธรรมชาติและเหตุสุดวิสัย จนทำให้พนักงานไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ เนื่องจากขาดที่อยู่อาศัย ขาดเงินทุนบางส่วน ในกรณีแบบนี้องค์กรก็สามารถจัดสวัสดิการที่ตอบโจทย์เหล่านี้ของพนักงานได้เช่นกัน อาทิ
- เงินกู้ฉุกเฉินให้กับพนักงานในกรณีที่เกิดภัยพิบัติขึ้น โดยไม่คิดดอกเบี้ยใดๆ
- บางองค์กรมีการไปทำข้อตกลงกับทางธนาคาร เพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยลง ในกรณีที่พนักงานขององค์กรเข้ามากู้เงินเพื่อ
ซื้อที่อยู่อาศัย เป็นต้น
- สวัสดิการทุนการศึกษาบุตรพนักงาน
แก่ สวัสดิการด้านนี้ก็คือ เมื่อพนักงานมีอายุมากขึ้นหรือเมื่อถึงวัยเกษียณ องค์กรมีการจัดสวัสดิการเพิ่มเติมให้พนักงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพนักงานจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติสุขเมื่อถึงวัยเกษียณอายุ ซึ่งบางแห่งอาจจะมีการจัดสวัสดิการให้กับครอบครัว (พ่อแม่ พนักงาน) ที่มีอายุมากๆ บางองค์กรก็มีสวัสดิการช่วยเหลือให้ อาทิ
- เงินบำเหน็จ หรือบำนาญ ที่คำนวณต่างหากจากเงินกองทุกสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมาย
- เกษียณอายุเงินเพิ่มพิเศษในกรณีเกษียณอายุ โดยคำนวณเพิ่มพิเศษให้ตามจำนวนปีที่ทำงานกับองค์กร และบวกเพิ่มเข้าไปกับเงิน
- ประกันชีวิตที่ครอบคลุมไปจนถึงวันที่เสียชีวิต
ตาย เป็นสวัสดิการในกรณีที่พนักงานเสียชีวิตในระหว่างที่ทำงานอยู่กับองค์กร ซึ่งองค์กรจัดให้มีเพื่อเป็นการช่วยเหลือครอบครัวของพนักงานเพื่อให้พอที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และต้องปรับตัวใหม่ อาทิ
- ประกันชีวิตให้กับพนักงาน ครอบครัวก็จะได้เงินสินไหมทดแทนไป
- เงินก้อนพิเศษให้กับครอบครัวของพนักงาน
- การจัดงานศพให้พนักงาน
รูปแบบสวัสดิการที่กล่าวไปข้างต้น ถือว่าเป็นสวัสดิการที่ครอบคลุมชีวิตและความเป็นอยู่ของพนักงานในสภาพปกติที่ควรจะเป็น ดังนั้นถ้าองค์กรต้องการจัดสวัสดิการเพิ่มเติมให้กับพนักงาน ก็สามารถลองนำเอาแนวทางข้างต้นไปปรับและออกแบบรูปแบบสวัสดิการพนักงาน ให้สอดคล้องกับช่วงชีวิตและความเป็นอยู่ของพนักงานในองค์กรได้
นอกจากนี้ไปดูสวัสดิการที่ไม่ถือเป็นเงินได้ของพนักงาน ว่ามีสวัสดิการอะไรกันบ้าง ไปดูกัน
- เงินช่วยค่าคลอดบุตร
- เงินค่าช่วยเหลืองานแต่ง งานบวช และงานศพ
- ซื้อกระเช้าเยี่ยมพนักงานป่วย
- จัดที่พักให้พนักงานที่ทำงานดึก
- จัดรถรับส่งพนักงาน
- รถประจำตำแหน่ง
- เครื่องแบบพนักงาน
- เงินบำเหน็จให้แก่ทายาทพนักงานถึงแก่กรรม
- ให้ทุนการศึกษาแก่พนักงาน (มีสัญญาให้กลับมาทำงานต่อ)
- รายจ่ายเพื่อการศึกษา หรือฝึกอบรม
- ห้องพยาบาล อุปกรณ์พยาบาล
- ค่าห้องออกกำลังการพน้อมเทรนเนอร์
- สอนภาษาต่างประเทศในบริษัท
สวัสดิการที่กิจการที่ให้แก่พนักงานทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ และ มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนในระเบียบของกิจการ ถึงจะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการประกอบกิจการสามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวมารวมในการคำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ และมีสิทธินำภาษีซื้อมาหักจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้
บริษัทมีสวัสดิการให้กับพนักงานดังนี้
- ค่ารักษาพยาบาล
- ของขวัญเยี่ยมไข้พนักงาน เช่นพนักงานคลอด ป่วยเกิน 3 วัน
- งานเลี้ยงปีใหม่และจับของรางวัล
ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการประกอบกิจการสามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวมารวมในการคำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ และมีสิทธินำภาษีซื้อมาหักจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้
โดยค่าใช้จ่ายสวัสดิการที่กิจการให้กับพนักงานสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีเพื่อทำให้กิจการเสียภาษีน้อยลงได้ โดยทั่วไปแล้วสวัสดิการที่กรมสรรพากรอนุญาตให้นำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้จะต้องเข้าเงื่อนไขต่อไปนี้
- กิจการต้องระบุสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงานไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของกิจการ โดยระบุไว้ในคู่มือพนักงาน
- การให้สวัสดิการจะต้องให้กับพนักงานทุกคนทั่วไปโดยไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติ
ที่มา
สวัสดิการ" สิ่งที่ HR (ส่วนใหญ่) ลืมให้ความสำคัญ
สวัสดิการที่ไม่ถือเป็นเงินได้ของพนักงาน
สวัสดิการพนักงาน กับเรื่องของภาษี
สวัสดิการพนักงานที่เป็นค่าใช้จ่ายได้