วิถี New Normal ไม่ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตเราเฉพาะเรื่องสุขอนามัย การสวมใส่หน้ากากและหมั่นล้างมือให้สะอาดเพียงเท่านั้น การรักษาระยะห่างเป็นหนึ่งในสิ่งที่พึ่งปฏิบัติเช่นเดียวกัน
แนวทางการทำงานออนไลน์หรือ Work From Home ได้รับความนิยมมากขึ้น การทำงานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น คนทำงานสะดวกกว่าเดิม ทำจากที่ไหนก็ได้ ส่วนองค์กรเองก็ประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลายส่วน ในขณะที่ผลลัพธ์และประสิทธิภาพของการทำงานยังคงเดิม
ถึงแม้จะแยกย้ายกันไปทำงานคนละสถานที่แต่ “การทำงานเป็นทีม” ยังคงเป็นหัวใจหลักของการทำงานอยู่ดี น้องบีพลัสมี Do & Don’t การทำงานเป็นทีมในยุคออนไลน์ มาแนะนำ
Do
1. Keep ชั่วโมงการทำงานเท่าเดิม
การทำงานเกินเวลา คือปัญหาอันดับต้น ๆ ของคนทำงาน WFH บ่อยครั้งที่ภาระงานอันมากล้นทำให้เราต้องทำงานจนถึงดึกดื่น การทำงานเป็นทีมที่ดีและมีประสิทธิผล ควรติดต่อกันแค่ในชั่วโมงการทำงาน สิ้นสุดการสนทนาเรื่องงานภายในเวลาเลิกงาน อย่าปล่อยปละหรืออะลุ่มอล่วย เพียงเพราะมองว่าเราอยู่บ้าน ทำได้เรื่อย ๆ ไม่เดือดร้อน เพราะนั่นไม่ใช่เหตุผลที่เหมาะสม ตลอดจนช่วงเบรคพักเที่ยง ก็เป็นเวลาที่งดคุยงานเช่นเดียวกัน ควรรอจนกว่าจะบ่ายโมง
2. ตั้งรับทุกการติดต่อสื่อสาร
การติดต่อสื่อสารต้องเป็นเรื่องสะดวกเสมอพอถึงเวลางาน คุณต้อง On call พร้อมรับการติดต่อจากทุกช่องทางการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นอีเมลล์ แชท วีดีโอคอลหรือโทรศัพท์ รวมถึงทุกการประชุมออนไลน์ก็ควรเข้าร่วมประชุมในเวลาที่กำหนด อย่าให้คนในทีมต้องตามหรือรอนานเกินไป ควรหาข้อกำหนดร่วมกันในทีม
3.อุปกรณ์การทำงานต้องมีพร้อม
ข้อเสียอย่างหนึ่งของการทำงานที่บ้านซึ่งต้องยอมรับคือ ข้าวของเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่พร้อมเท่ากับการทำงานในออฟฟิศ บางอย่างเราอาจจะต้องออกค่าใช้จ่ายเองเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน แต่ของบางอย่างที่สำคัญ ทางบริษัทจำต้องจัดเตรียมให้พนักงาน ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด เมาส์ ระบบและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ต้องรองรับการทำงานแบบออนไลน์ที่ราบรื่น ในยุคที่เทคโนโลยีเดินทางไปเข้าสู่ช่วงของจักรวาลนฤมิต หรือ Metaverse
Don’t
1.ประชุมหามรุ่งหามค่ำจนไม่มีเวลาทำงาน
สาเหตุหลัก ๆ ที่ต้องทำงานจนล่วงเวลาจนดึกดื่นนั้น มาจากการประชุมในระหว่างวันที่ค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องของจำนวนครั้งและจำนวนเวลาที่ค่อนข้างนาน เข้าใจว่าการทำงานเป็นทีมต้องปรึกษาแลกเปลี่ยนความเห็นอยู่บ่อย ๆ เพื่อ Brainstorm รวบรวมไอเดียจากคนในทีม
อย่างไรก็ตามควรอยู่บนเส้นของความพอดี ควรเรียกประชุมเฉพาะคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีกำหนดเวลาเริ่มและเลิกที่ชัดเจน
บางคนประชุมมากจนเกินภาวะการณ์ฟื้นตัวจากการประชุม หรือ “Meeting recovery syndrome (MRS) คือต้องใช้เวลาสักพักหลังการประชุมในการปรับอารมณ์ตัวเอง ให้กลับมามีสมาธิทำงานต่อได้
2.ติดต่อเพื่อนร่วมงานหลังเวลางาน
การติดต่อสื่อสารในทุกช่องทาง ทั้งหมดนั้นต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข “ในเวลางาน” เท่านั้น การทำงานเป็นทีมต้องรู้จักเคารพและเห็นถึงคุณค่าเวลาของเพื่อนรวมงาน พยายามอย่าทักหรือติดต่อไปหลังเวลางาน หากกลัวลืมสิ่งที่อยากแจ้ง แนะนำให้ตัวคุณเองโน๊ตสิ่งเหล่านั้นไว้แล้วตั้งแจ้งเตือน
อย่ามองว่าส่งไปก็ไม่ได้คาดหวังให้ตอบทันที หรือไม่ต้องเปิดอ่านในตอนนั้นก็ได้ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ใครเห็นข้อความเรื่องงานมาในช่วงวันหยุดก็คงอดหงุดหงิดใจเล็ก ๆ ไม่ได้ ทุกคนต้องใช้ชีวิตและแบ่งปันเวลาให้กับเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นความสุข ความชอบของเขา เป็นอีกหนึ่งสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำคัญและไม่อยากให้ชาวออฟฟิศอย่างเรามองข้ามความรู้สึกของเพื่อนร่วมทีม
ที่มา JobsDB
