สภาวะ คิดเรื่องงานตลอดเวลา

          บางทีเราชอบคิดว่าแค่ร่างกายพักก็พอแล้ว แต่ความจริงคือเมื่อสมองเราทำงานหนัก สภาวะคิดเรื่องงานตลอดเวลา เสี่ยงต่อภาวะเหนื่อยหน่าย ทำร้ายสุขภาพ ก่อให้เกิสภาวะหมดไฟ มองงานที่ทำอยู่ในแง่ลบ ขาด Passion รู้สึกไม่มีอารมณ์ร่วมกับงานและเพื่อนร่วมงาน ถึงขั้นไม่อยากตื่นไปทำงาน สิ่งสำคัญคือต้องหาสมดุลที่ดีระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวเพื่อรักษาความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ การดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของคุณเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานและหลีกเลี่ยงความเหนื่อยหน่ายอีกด้วย

         อีกทั้ง HR ควรสำรวจให้ชัด ว่าปัญหาเกิดจากปัญหาส่วนตัวของพนักงาน หรือความไม่สมบูรณ์ของระบบภายในองค์กรกันแน่

วันนี้น้องบีพลัสมีวิธีการจัดการสลัดงานออกไปจากชีวิตส่วนตัว มาฝากกัน

  • กำหนดขอบเขต กำหนดขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างงานและเวลาส่วนตัว จัดสรรชั่วโมงทำงานเฉพาะและยึดถือเวลาเหล่านั้น นอกเวลาดังกล่าว ให้เน้นไปที่กิจกรรมที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายและเติมพลัง
  • ฝึกฝนการดูแลตนเอง ทำกิจกรรมที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายและลดความเครียด ซึ่งอาจรวมถึงการออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ใช้เวลากับคนที่คุณรัก ทำงานอดิเรก หรือทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ การดูแลตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพการทำงานและป้องกันความเหนื่อยหน่าย
  • จัดลำดับความสำคัญของงาน สร้างรายการสิ่งที่ต้องทำและจัดลำดับความสำคัญของงานตามความสำคัญและความเร่งด่วน วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีระเบียบและมีสมาธิ ลดแนวโน้มที่จะคิดเกี่ยวกับงานอยู่ตลอดเวลา
  • มอบหมายและขอความช่วยเหลือ หากเป็นไปได้ มอบหมายงานหรือขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน การแบ่งปันภาระงานสามารถบรรเทาความกดดันบางส่วนและช่วยให้คุณมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น
  • ตัดการเชื่อมต่อจากเทคโนโลยี หยุดพักจากหน้าจอและตัดการเชื่อมต่อจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับงานในช่วงเวลาส่วนตัวของคุณ สิ่งนี้จะช่วยคุณสร้างการแบ่งแยกทางจิตใจระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว

 

ที่มา hrnote