1 เข้าใจความต้องการของลูกค้า
สิ่งสำคัญอันดับแรก คือการเข้าใจความต้องการของลูกค้า ทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าเพื่อวางแผนเมนูเพื่อจัดจำหน่าย โดยเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอาหารประเภทไหน อาหารอะไรที่เป็นที่นิยม เพื่อเป็นโอกาสในการทำธุรกิจร้านอาหารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ และเพื่อจัดการร้านอาหารของคุณให้ขายดี ได้กำไร
2 การจัดการงบประมาณร้านอาหารที่ดี
ปัจจัยสำคัญของการจัดการร้านอาหารให้มีกำไร คือการจัดการงบประมาณ ต้นทุนร้าน เพราะงบประมาณ จะเป็นตัวชี้วัดว่าร้านคุณจะได้กำไรหรือขาดทุน เมื่อหักลบกับยอดขายแล้ว ดังนั้นการวางแผนที่ดีในการใช้จ่าย การทำบัญชีรายรับรายจ่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญ รายจ่ายบางประเภทเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านควบคุมโดยเพิ่มหรือลดได้ ดังนั้น เจ้าของร้านต้องคาดการณ์ถึงปัญหาและวางแผนรับมือให้ดี
3 ความปลอดภัยด้านอาหารเป็นการจัดการที่ไม่ควรมองข้าม
ความปลอดภัยด้านอาหาร โดยหลักแล้วคือวิธีการจัดการร้านอาหารให้เกิดความปลอดภัยทั้งกับพนักงานและลูกค้า เพราะการเปิดร้านอาหารคือการผลิตและขายอาหาร ดังนั้นจึงต้องมีความปลอดภัยสูงสุด ความท้าทายของเจ้าของร้านต่อความปลอดภัยด้านอาหาร ด้แก่ การต้องฝึกอบรมพนักงานเรื่อยๆ ให้เข้าใจถึงการใช้เครื่องครัวให้ถูกวิธี ให้พนักงานปรุงอาหารโดยไม่มีสารปนเปื้อน เครื่องใช้ในครัวมีการตรวจสภาพหรือซ่อมแซมเป็นประจำ รวมถึงการใช้ผู้จัดส่งอาหารที่ได้มาตรฐาน
4 ราคาอาหารที่ลูกค้ารับได้ ร้านคุณได้กำไร
ราคาอาหารคือสิ่งแรกๆ ที่ควรคำนึงถึง ควรตั้งราคาให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นราคาที่ลูกค้ารับได้ และต้องสอดคล้องกับคุณภาพสินค้า ราคาตลาด และควรเหมาะสมกับต้นทุนทางธุรกิจของคุณ
5 โปรโมชั่นเพิ่มยอดขายให้กระฉูด
การคิดโปรโมชั่นเพิ่มกระตุ้นยอดขายคือหาวิธีทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสิ่งที่เขาจ่ายไปนั้นมีราคาถูกกว่าปกติ คุ้มค่าที่จะซื้อจากร้านคุณมากกว่าไปซื้อร้านอื่น ซึ่งแน่นอนว่าหลักการนี้ใช้ได้กับทุกธุรกิจรวมไปถึงธุรกิจร้านอาหาร การคิดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายสำหรับร้านอาหารโดยใช้หลักการข้างต้นนี้มีเทคนิคหลายอย่าง เช่น การสร้างตัวหลอกโดยเล่นกับขนาดของอาหาร สั่งจานใหญ่กว่าคุ้มกว่า โดยลูกค้าจ่ายเพิ่มอีกเพียงนิดเดียว แต่ได้อาหารที่ปริมาณเยอะกว่า คุ้มค่ากว่ามาก การตั้งราคาเมนูหนึ่งให้ถูกที่สุด แล้วดึงกำไรจากเมนูอื่นๆ หรือการขายเมนูเป็นเซ็ต เพิ่มเครื่องเคียงอีกอย่างสองอย่างแต่จ่ายเพิ่มในราคาเพียงนิดเดียว นี่ก็จะกระตุ้นความสนใจและทำให้ลูกค้าฉุกคิดได้ว่าการสั่งอาหารเพิ่มขึ้นจะถูกกว่าและคุ้มค่ากว่า จากนั้นร้านคุณก็ได้เพิ่มยอดขาย
6 จัดการให้เมนูอาหารต้องโดนใจลูกค้า
หนึ่งในสิ่งที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจจะทานหรือไม่ทานอาหารที่ร้านคุณ ก็คือเมนูชื่ออาหาร เพราะฉะนั้นการจัดการร้านอาหารที่ดีต้องคำนึงถึงสิ่งนี้ด้วย เมนูควรจะชัดเจน กระชับ เข้าใจง่าย เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพทันทีและไม่เกิดการลังเลที่จะสั่ง แต่หากคุณต้องการเพิ่มลูกเล่นให้ชื่อเมนูของคุณ อาจหยิบส่วนประกอบในจานนั้นมาเป็นตัวชูโรงและสร้างเรื่องราวให้กับมัน เช่น เน้นคำว่าเพื่อสุขภาพ หรือออแกนิคสำหรับเมนูสลัดผักรวม หรือบอกที่มาของส่วนประกอบนั้นๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ แน่ล่ะไม่ใช่ว่าทุกเมนูที่มีจะขายดี จะต้องมีบางเมนูที่ขายดีและทำกำไรงาม เมนูขายดีแต่ไม่มีกำไร เมนูขายได้ไม่เยอะแต่กำไรพุ่งกระฉูด และเมนูที่ไม่มีลูกค้าซื้อและไม่สร้างกำไรเลย สถานการณ์เหล่านี้เจ้าของร้านอาหารหรือเชฟจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เนื่องจากถ้ามีเมนูมากและหลากหลาย นั่นหมายถึงการต้องตุนวัตถุดิบในปริมาณที่เยอะ เมนูไหนขายไม่ได้ วัตถุดิบก็จะค้างสต๊อก ทุนจม และของสดเน่าเสียได้
7 ประชาสัมพันธ์ ทำการตลาดให้ร้านเป็นที่รู้จัก
การทำการตลาดคือปัจจัยสำคัญในปัจจุบัน และโดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารที่มีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการต้องพึ่งการตลาดและเลือกช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการติดป้ายหน้าร้านและในร้าน รวมถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ทุกวันนี้มีความสำคัญอย่างมาก เจ้าของร้านอาหารจึงควรใช้เครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักในสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Facebook Instagram Twitter LINE Official Account ไม่ว่าจะเป็นการโพสแบบฟรีหรือการโฆษณาเพื่อขยายหรือเจาะกลุ่มเป้าหมาย และช่องทางที่สำคัญอื่นๆ อย่าง Google My Business เพื่อให้ร้านขึ้นในเสิร์ชเอนจิ้นยอดฮิตอย่าง Google
8 อย่าละเลยเรื่องการจัดการขยะอาหารในร้าน
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยคือจะมองข้ามเรื่องอาหารเหลือหรือขยะอาหารไปไม่ได้เลย เพราะอาหารเหลือหมายถึงเงินของผู้ประกอบการที่ไหลทิ้งลงท่อ ลงเครื่องกำจัดขยะ หรือลงถังขยะไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวฉุดให้ร้านทำกำไรได้น้อยลงอย่างปฏิเสธไม่ได้ นอกจากนั้นแล้ว หากพิจารณาถึงความยั่งยืนและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมแล้ว ขยะอาหารเป็นหนึ่งปัจจัยหลักที่สร้างปัญหาในทุกวันนี้
9 ธุรกิจเดลิเวอรี่กำลังมาแรง
ในยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธุรกิจเดลิเวอรี่หรือขายอาหารส่งตามบ้านกำลังมาแรง ด้วยสถานการณ์โรคระบาดจนต้องมีการล็อคดาวน์และออกข้อบังคับนั่งทานในร้านอาหารทำให้วิถีชีวิตของคนเปลี่ยนไป การขายอาหารเดลิเวอรี่ก็คือการทำอาหารเพื่อขายให้ลูกค้าเหมือนกับการขายอาหารที่ร้าน แต่เดลิเวอรี่มีลักษณะและข้อจำกัดที่แตกต่างจากการขายที่ร้านอยู่หลายประการ เช่น การตั้งราคาใหม่โดยคำนึงถึงต้นทุนทางด้านค่าคอมมิชชั่นที่ต้องเสียให้แอพพลิเคชั่นส่งอาหาร ค่าบรรจุภัณฑ์ ช้อนส้อมพลาสติก กระดาษเช็ดปาก การเลือกเมนูและบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับการใช้เวลาเดินทางส่งอาหาร ความพร้อมของครัวในการรับออเดอร์จำนวนมากพร้อมๆ กัน หรือช่องทางในการโปรโมทการขายอาหารเดลิเวอรี่ของร้านคุณ ดังนั้น การจัดการร้านอาหารสำหรับธุรกิจเดลิเวอรี่จึงต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้
10 มีตัวช่วยในครัวสำหรับการจัดการร้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ประกอบการมืออาชีพจึงควรพึ่งเทคโนโลยีและตัวช่วยที่มีในปัจจุบันมาใช้ในการทุ่นเวลา แรงงาน และลดต้นทุน เพื่อจะได้นำเวลาและงบประมาณที่เหลือไปวางแผนพัฒนาและต่อยอดธุรกิจของร้านต่อไป ยกตัวอย่าง การมีระบบบริหารงานสำหรับร้านอาหาร มาช่วยให้ท่านเหนือคู่แข่ง เพิ่มรายได้ รักษาฐานลูกค้า ลดการสูญเสีย ลดช่องทางทุจริต ลดต้นทุน ทำให้กำไรเพิ่มขึ้น
ที่มา : www.unileverfoodsolutions.co.th
