HR Tech: เทคโนโลยีสำคัญที่ HR ยุคใหม่ต้องรู้และใช้งานในโลกดิจิทัล

HR Tech คืออะไร และทำไมถึงมีความสำคัญในยุคดิจิทัล?

HR Tech (Human Resources Technology) คือการนำเทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (HR) ในองค์กร เพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และช่วยให้การจัดการข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพนักงานเป็นไปอย่างเป็นระบบและมีความแม่นยำมากขึ้น

ในปัจจุบัน การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรทุกขนาด เพราะช่วยลดภาระงานที่เกี่ยวข้องกับงานเอกสาร ประหยัดเวลา และเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการทรัพยากรบุคคล นอกจากนี้ HR Tech ยังช่วยให้ HR สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยระบบที่รองรับการทำงานผ่านคลาวด์และอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเทคโนโลยีที่เป็นส่วนหนึ่งของ HR Tech ได้แก่:

ตัวอย่างเทคโนโลยี HR Tech ที่สำคัญ

1. ระบบจัดการข้อมูลพนักงาน (HR Information System - HRIS) เป็นแพลตฟอร์มที่รวมทุกข้อมูลสำคัญของพนักงานไว้ในที่เดียว เช่น ข้อมูลส่วนตัว ประวัติการทำงาน ประวัติการลา การเลื่อนตำแหน่ง และข้อมูลอื่นๆ ระบบ HRIS ช่วยให้สามารถจัดเก็บ ค้นหา และอัปเดตข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ทำให้องค์กรสามารถบริหารจัดการข้อมูลพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ระบบจัดการเงินเดือน (Payroll System) ระบบนี้ช่วยในการคำนวณเงินเดือน ภาษี และสวัสดิการต่างๆ ของพนักงานได้อย่างอัตโนมัติ ช่วยให้การคำนวณถูกต้องและรวดเร็ว ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการคำนวณด้วยมือ อีกทั้งยังช่วยในการส่งข้อมูลการจ่ายเงินเดือนและภาษีไปยังหน่วยงานภายนอกได้ทันที
3. การจัดการเวลาทำงาน (Time and Attendance System) เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ HR สามารถบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน การเข้า-ออกงาน การทำงานล่วงเวลา (OT) ได้อย่างแม่นยำ ระบบจะทำการคำนวณชั่วโมงการทำงานและ OT โดยอัตโนมัติ ช่วยลดภาระงานของ HR และยังทำให้พนักงานตรวจสอบข้อมูลการทำงานของตนเองได้แบบเรียลไทม์
4. ระบบจัดการการสรรหาและว่าจ้าง (Applicant Tracking System - ATS) ระบบนี้ใช้ในการจัดการกระบวนการสรรหาและว่าจ้างพนักงานใหม่ ตั้งแต่การรับสมัครงาน การคัดเลือกใบสมัคร ไปจนถึงการว่าจ้าง ระบบ ATS ช่วยให้ HR สามารถติดตามสถานะของผู้สมัครและจัดการเอกสารต่างๆ ในกระบวนการสรรหาได้ง่ายขึ้น
5. การประเมินผลการทำงาน (Performance Management System) ระบบนี้ช่วยให้ HR และผู้จัดการสามารถประเมินผลการทำงานของพนักงานได้อย่างมีระบบ ทั้งการตั้งเป้าหมาย การให้คำแนะนำ การติดตามผลการทำงาน และการวางแผนพัฒนาศักยภาพพนักงาน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ข้อมูลในการวางแผนการเลื่อนตำแหน่งและการจ่ายโบนัสได้อย่างแม่นยำ
6. ระบบพัฒนาศักยภาพพนักงาน (Learning Management System - LMS) เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะพนักงานเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการคอร์สเรียน การอบรมออนไลน์ หรือการประเมินผลการเรียนรู้ LMS ช่วยให้พนักงานสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะได้อย่างต่อเนื่อง
7. การจัดการสวัสดิการ (Benefits Administration) ระบบนี้ช่วยในการจัดการสวัสดิการของพนักงาน เช่น การจัดการประกันสุขภาพ สิทธิ์การลา และสิทธิ์ประโยชน์อื่นๆ ของพนักงาน HR สามารถจัดการและอัปเดตข้อมูลสวัสดิการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้การบริหารสวัสดิการเป็นไปอย่างเป็นระบบ

ประโยชน์ของ HR Tech ในการบริหารงาน HR

การใช้ HR Tech มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคที่ทุกองค์กรต้องการความรวดเร็วและแม่นยำในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล HR Tech สามารถช่วยองค์กรในการประหยัดเวลา ลดความซับซ้อนในกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนี้

1. ประหยัดเวลาและลดขั้นตอนที่ซับซ้อน ระบบ HR Tech ช่วยให้การจัดการงานต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเงินเดือน การบันทึกเวลาทำงาน หรือการอนุมัติใบลา ช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานแบบดั้งเดิมที่ใช้เอกสารและการคำนวณด้วยมือ
2. การจัดการข้อมูลที่ง่ายขึ้น ระบบ HR Tech ช่วยให้ HR สามารถจัดเก็บและค้นหาข้อมูลพนักงานได้อย่างง่ายดาย ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ เช่น การดูประวัติการทำงาน การจัดทำรายงาน หรือการตรวจสอบสิทธิ์การลา
3. เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร HR Tech มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การสื่อสารระหว่าง HR และพนักงานมีความสะดวกมากขึ้น เช่น การส่งใบลาออนไลน์ การส่งประกาศข้อมูลสำคัญให้พนักงานแบบเรียลไทม์ ทำให้ลดปัญหาการขาดการสื่อสารและเพิ่มความเข้าใจในองค์กร
4. เพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ การใช้เทคโนโลยีช่วยให้กระบวนการบริหารงาน HR มีความโปร่งใสมากขึ้น พนักงานสามารถตรวจสอบข้อมูลของตนเองได้ตลอดเวลา เช่น การตรวจสอบเงินเดือน ใบลา และสิทธิ์ต่างๆ ทำให้พนักงานมั่นใจในความถูกต้องของข้อมูล
5. การประเมินและพัฒนาศักยภาพพนักงานได้ดียิ่งขึ้น HR Tech ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลการทำงานของพนักงาน เช่น การตรวจสอบแนวโน้มพฤติกรรมการทำงาน การประเมินผล และการวางแผนพัฒนาศักยภาพของพนักงานในอนาคต
6. การปรับตัวต่อการทำงานยุคดิจิทัล HR Tech ช่วยให้ HR สามารถปรับตัวเข้ากับการทำงานในยุคดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานระยะไกล (Remote Work) หรือการใช้ระบบคลาวด์ในการจัดการข้อมูล ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัวและยืดหยุ่น

แนะนำ Bplus e-HRM ตัวช่วยสำคัญในองค์กร: ส่วนหนึ่งของ HR Tech ที่ตอบโจทย์องค์กรยุคดิจิทัล

หนึ่งในโซลูชันที่โดดเด่นภายใต้แนวคิดของ HR Tech คือ Bplus e-HRM ซึ่งเป็นระบบการจัดการทรัพยากรบุคคลออนไลน์ที่ครอบคลุมทุกกระบวนการ HR ในองค์กร ช่วยให้งานบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลง่ายขึ้น ทันสมัย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีฟีเจอร์และประโยชน์ที่ช่วยงานในหลายๆ ด้านดังนี้:

• การจัดการเงินเดือน (Payroll Management): ระบบช่วยในการคำนวณเงินเดือน ภาษี และประกันสังคมโดยอัตโนมัติ ทำให้กระบวนการคำนวณมีความถูกต้องและรวดเร็ว ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการคำนวณด้วยมือ
• การจัดการข้อมูลพนักงาน (Employee Information Management): ระบบรวบรวมข้อมูลพนักงานทั้งหมด เช่น ข้อมูลส่วนตัว ประวัติการทำงาน สิทธิ์การลาต่างๆ ไว้ในที่เดียว ทำให้สะดวกต่อการค้นหาและปรับปรุงข้อมูลได้ทันที
• การจัดการการลา (Leave Management): พนักงานสามารถส่งคำขอลาผ่านระบบออนไลน์ได้ ทำให้การอนุมัติใบลามีความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส ผู้จัดการสามารถติดตามและตรวจสอบสิทธิ์การลาของพนักงานได้อย่างง่ายดาย
• การบันทึกเวลาทำงาน (Time and Attendance Management): ระบบสามารถบันทึกเวลาทำงาน การเข้า-ออกงาน และการทำงานล่วงเวลา (OT) ของพนักงานได้อัตโนมัติ ลดปัญหาการบันทึกเวลาที่ผิดพลาด และช่วยในการคำนวณโอทีได้แม่นยำ
• รายงานและเอกสาร HR (Reporting and Documentation): Bplus e-HRM มีรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับ HR เช่น รายงานเงินเดือน รายงานการลา หรือรายงานการทำงานล่วงเวลา ผู้บริหารสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวางแผนและตัดสินใจ
• การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security): ระบบมีการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวด ทั้งการเก็บรักษาข้อมูลพนักงานและการเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลภายนอก ช่วยให้การเก็บรักษาข้อมูลมีความปลอดภัยสูง
• การเข้าถึงผ่านเว็บ (Web-based Access): ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงระบบผ่านเว็บเบราว์เซอร์จากทุกที่ ทุกเวลา ทำให้สะดวกต่อการใช้งานสำหรับผู้จัดการและพนักงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
• ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนข้อมูล (Flexible Adjustments): ระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลพนักงานและการตั้งค่าต่างๆ ได้ตามความต้องการขององค์กร เช่น การปรับอัตราเงินเดือน การตั้งค่ากะงาน หรือการจัดการสิทธิ์การลาของพนักงาน

การใช้ HR Tech ไม่เพียงแต่ช่วยให้การบริหารงาน HR มีความทันสมัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในการทำงาน เมื่อรวมกับโซลูชันอย่าง Bplus e-HRM องค์กรจะได้รับประโยชน์จากการทำงานที่รวดเร็วและปลอดภัย ข้อมูลที่ถูกจัดการอย่างมีระบบ และฟีเจอร์ที่ยืดหยุ่นเพื่อรองรับความต้องการของธุรกิจในยุคดิจิทัล

อ้างอิง : บทความนี้เขียนขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากเทคโนโลยี AI