ถ้าพูดถึงพนักงานในองค์กรที่เป็นแบบอย่างให้กับคนอื่น ๆ คนที่มี network เชื่อมโยงและ connect กับคนในองค์กรมากกว่าแค่ในแผนก ไปที่ไหนใครก็รู้จักทั้งองค์กร คนแรก ๆ ที่เห็นความสำคัญและเอาด้วยกับอะไรใหม่ ๆ ขององค์กรเสมอ หรือคนที่เสริมแรงเชิงบวกกับเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี ถ้าหากมีท่านใดนึกแวบถึงคนในองค์กรขึ้นมาในข้อใดข้อหนึ่ง อย่าพลาดที่จะให้เวทีกับเขา ในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร ถ้าหากท่านนึกแวบหน้าคนใดคนหนึ่งในองค์กรขึ้นมา (ในข้อใดข้อหนึ่ง หรืออาจหลายข้อ) อย่าพลาดที่จะให้เวทีกับเขาในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร
ในทุก ๆ องค์กร จะมีคนประเภทนึงอยู่เสมอ ที่สามารถจูงใจ เป็นแบบอย่าง และ Influence ผู้อื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับบทบาทหรือตำแหน่งหน้าที่ เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่าเป็นคนที่มี #ความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ หรือ Authentic Informal Leaders ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่งที่จะพาชุดพฤติกรรมของค่านิยมองค์กรให้เกิดขึ้นด้วยความสามารถอันเป็นธรรมชาตินี้
ไม่ว่าจะเป็นการทำสิ่งที่สำคัญและแสดงให้เห็นว่าทำอย่างไร เป็นบุคคลที่ได้รับความเชื่อถือและเคารพจากเพื่อนร่วมงานโดยส่วนใหญ่ และแน่นอนว่าเป็นแบบอย่างที่ดี (Role Model) หรือ เป็นผู้ที่มีเครือข่าย เป็นที่รู้จักของคนในองค์กร มีปฏิสัมพันธ์ที่ดี สื่อสารได้อย่างทั่วถึง (Networker) หรือ เป็นผู้ที่เห็นคุณค่าและความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงหรือการรับเอาสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นไปใช้ หรือปรับใช้เป็นคนแรก ๆ ขององค์กร (Early Adopters) หรือ เป็นผู้ที่เสริมแรง และจูงใจทีมได้เป็นอย่างดี สร้างบรรยากาศเชิงบวก เน้นการพัฒนา และส่งเสริมพฤติกรรมที่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้น (Pride Builder)
ซึ่งหากเราสามารถให้เวทีและสร้างการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชุดพฤติกรรมสำคัญของค่านิยมองค์กรที่สะท้อนวัฒนธรรมในแบบที่เราอยากให้เป็น ก็จะเกิดขึ้นด้วยการขับเคลื่อนของกลุ่มพนักงานที่กระจายตัวอยู่ในส่วนต่าง ๆ ขององค์กรได้อย่างทั่วถึง อย่างที่กล่าวไปตอนต้น ว่าในทุกองค์กรมีกลุ่มคนเหล่านี้อยู่ แต่อยู่ที่ไหนและเราจะหากลุ่มคนเหล่านี้ได้อย่างไร มี 4 ประเด็นสำคัญที่ชวนพิจารณาและคำนึงถึง หากจะตามหาและมอบเวทีให้พวกเขา
1. พวกเขาอาจเป็นคนที่มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับธรรมดาทั่วไป
คนกลุ่มนี้อาจไม่ได้ดูโดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่มีความสามารถระดับท็อป ๆ ขององค์กร แต่คนที่เป็นผู้นำโดยธรรมชาติอาจมาได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะผู้ที่เป็น Pride Builder ตัวอย่างเช่น เขาอาจจะเป็นผู้ที่โด่ดเด่นและใส่ใจในเรื่องของการโค้ชและให้คำแนะนำผู้อื่น มากกว่าบทบาทอาชีพของเขาเอง หรือ เขาอาจให้ความสำคัญกับเรื่องของความสัมพันธ์มากกว่าบทบาทหรือตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้เขาเหล่านี้สร้างสรรค์ผลงานที่ทรงพลังให้กับองค์กร
2. พวกเขามีวิธีการแสดงออกในแบบของตัวเอง
การแสดงออกโดยธรรมชาติของคนกลุ่มนี้ ทำให้พวกเขามีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดได้อย่างไม่น่าเชื่อ และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ทำให้พวกเขาสามารถ Influence ผู้อื่น (ได้อย่างเป็นธรรมชาติ) เช่นกัน ซึ่งนั่นหมายความว่า พวกเขาจะไม่ได้ปฏิบัติตาม หรือถ่ายทอดเรื่องราวคำพูดตามในแบบของเราเป๊ะ ๆ ได้อย่างที่เราคาดหวัง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราควรทำ คือการให้ข้อมูลและสิ่งสำคัญที่พวกเขาจำเป็นต้องรู้ และพวกเขาจะมีวิธีในการสื่อสาร ถ่ายทอด และแสดงออกในแบบของพวกเขาเอง ซึ่งอาจจะไม่ตรงใจเราในแบบที่ต้องการทั้งหมด แต่จะผลลัพธ์จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในแบบที่เราต้องการเช่นกัน
3. พวกเขามาด้วยความสมัครใจ และชอบความเรียบง่าย
คนกลุ่มนี้ชอบความเรียบง่าย ไม่เป็นทางการ พวกเขาล้วนมาด้วยความตั้งใจที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กรไปด้วยกัน ไม่ได้มาโดยการบังคับด้วยตำแหน่ง หรือบทบาทหน้าที่หลัก ฉะนั้น การกำหนดมาตรวัด เมตริก ระบบรายงาน การประเมินผล อย่างเป็นทางการอาจลดทอนพลังงาน พลังใจ และความเป็นธรรมชาติของพวกเขาไป รวมถึงเสน่ห์ในความเป็นตัวตนที่จะสร้างการขับเคลื่อน และ movement ของพวกเขาด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องมีการติดตามผลความคืบหน้า แต่ควรเป็นอะไรที่มีความง่ายและเป็นธรรมชาติ
4. พวกเขาอาจมีส่วนร่วมเพียงช่วงเวลาหนึ่ง
พวกเขายินดีเข้ามามีส่วนร่วมในช่วงเวลาหนึ่งตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ ซึ่งเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างบรรลุผลสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็จะขยับไปทำสิ่งอื่นต่อไปตามสถานการณ์และความสนใจ ซึ่งอาจจะต่อยอดจากเป้าหมายเดิม หรือเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ก็ได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อความผิดพลาดในกระบวนการผลิตมีอัตราที่ลดลงหรือถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว หรือ เมื่อห้องอาหารส่วนกลางไม่มีอาหารเหลือทิ้งอีกต่อไปแล้ว หรือเมื่อมีพฤติกรรมบางอย่างเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและต่อเนื่องเป็นระยะเวลาติดต่อกันจนบรรลุความตั้งใจแล้ว เป็นต้น
การทำงานร่วมกันกับเหล่าผู้นำโดยธรรมชาติอาจหมายถึงการออกจาก comfort zone ด้วยเช่นกัน หากเราต้องการพลังของเหล่าผู้นำกลุ่มนี้จากความเป็นตัวตนของเขาในการขับเคลื่อนให้เกิดพฤติกรรมที่สะท้อนค่านิยมและวัฒนธรรมขององค์กรได้จริงและทั่วถึง เราอาจจะต้องกล้าที่จะใช้วิธีการที่เราอาจไม่เคยลอง ไม่เคยทำ และไม่ใช่วิธีปกติทั่วไปที่ใช้ในการบริหารธุรกิจ ซึ่งนั่นคือการใช้ความเป็นตัวตนของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในระยะยาว และอย่างลืมว่าไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตามวัฒนธรรมองค์กรก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี ทำไมเราไม่มาสรางวัฒนธรรมองค์กรในแบบที่เราอยากเห็นกันล่ะ
ที่มา www.brightsidepeople.com
07 January 2022
View
2,610