สิ่งที่คนเป็น HR จะต้องนึกถึงก็คือคนในองค์กร เราจะได้ใจพนักงานก็ต่อเมื่อเราใส่ใจพนักงาน พร้อมทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดในทุก ๆ สถานการณ์ เพราะฉะนั้นท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ก็อย่าลืมแสดงความห่วงใยให้กับพนักงาน
พนักงานหลายคนหายจากโรคและพร้อมกลับมาลุยงานต่อ แล้วในมุมของคนทำงาน HR เราสามารถทำอะไรได้บ้างเมื่อพนักงานกำลังจะกลับมาทำงานต่อหลังจากที่หยุดไปนานเพื่อรักษาตัว วันนี้น้องบีพลัส มีมาแนะนำ
นัดพูดคุยกับพนักงานที่เพิ่งหายป่วยถึงความเป็นไปในบริษัท
เมื่อพนักงานคนนั้นพร้อมกลับมาทำงาน HR ควรนัดคุยกับเจ้าตัวอย่างจริงจังสักครั้ง ซึ่งจะเลือกใช้วิธีการวิดีโอคอลหรือการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ก็ได้ตามความเหมาะสม โดยหลัก ๆ จะเป็นการนัดพูดคุยอัปเดตเรื่องที่ควรทราบเกี่ยวกับบริษัทในแง่ของขั้นตอนการกลับมาทำงานและมาตรการป้องกันโรคที่อาจเปลี่ยนไปในระหว่างที่พนักงานคนนั้น ๆ ไม่อยู่ และอาจรวมไปถึงการขอความเห็นเกี่ยวกับมาตรการป้องกันเชื้อในออฟฟิศจากพนักงานคนนั้น
ถามอาการพนักงานและดูความเหมาะสมของงาน
สำหรับบางคนก็ยังต้องเจอกับอาการป่วยที่เรียกว่า “Long Covid” ซึ่งอาจเป็นอาการที่เกิดขึ้นแค่ชั่วคราว ส่งผลให้เราไม่สามารถทำงานที่ต้องใช้ร่างกายหนัก ๆ ได้ในช่วงที่เพิ่งหาย หรือสำหรับบางรายก็ได้รับผลกระทบแบบถาวร HR จะต้องถามถึงอาการของพนักงานที่หายป่วยว่าอาการป่วยได้สร้างเงื่อนไขอะไรกับร่างกายรึเปล่า ถ้าไม่ไหว HR ควรคุยกับทีมว่าจะสามารถเปลี่ยนถ่ายงานในส่วนนั้น ๆ ไปให้คนอื่นในทีมได้ไหม โดยจะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบชั่วคราวหรือถาวรก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของพนักงาน หรือถ้าในช่วงแรกพนักงานยังเพลีย ๆ และยังไม่สบายใจจะเดินทางมาทำงานที่ออฟฟิศ ก็อาจเสนอให้พนักงานทำงานแบบ Work from Home ไปก่อน
เคลียร์เรื่องวันลาของพนักงาน
HR ต้องไม่ลืมย้ำเรื่องวันลาของพนักงานคนนั้น ๆ ให้ดี เพราะเป็นเรื่องที่มีผลกับค่าจ้างของพนักงาน ซึ่งต้องคุยกันให้ลงตัวว่าจะทำเรื่องใช้สิทธิ์ลาในรูปแบบไหน โดยยึดตามข้อกำหนดจากกระทรวงแรงงาน หากต้องใช้เวลากักตัวมากกว่า 14 วัน ก็ยังถือเป็นการลาป่วยเช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามภาวะของโรค และมีสิทธิได้รับค่าจ้างตามกฎหมาย ในกรณีที่ลูกจ้างใช้สิทธิลาป่วยในรอบปีครบ 30 วันแล้ว รวมทั้งลาหยุดพักผ่อนประจำปีครบแล้ว หากทางราชการมีคำสั่งให้หยุดเพื่อดูอาการ 14 วัน หรือบริษัทมีคำสั่งให้หยุดดูอาการถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วย โดยนายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าจ้างได้ แต่จะถือว่าขาดงานไม่ได้ ให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิรับเงินทดแทนจากประกันสังคมตามสิทธิที่พึงได้ตามหลักเกณฑ์ที่ สปส. (สำนักงานประกันสังคม) กำหนด
สร้างความสบายใจให้คนที่ออฟฟิศ
ถ้าพนักงานที่เคยป่วยกำลังจะกลับมาทำงานในออฟฟิศก็มีความเป็นไปได้ที่เพื่อน ๆ ในที่ทำงานอาจยังรู้สึกไม่ค่อยโอเคถ้าจะต้องนั่งทำงานใกล้ ๆ กัน เพราะฉะนั้นเพื่อสร้างความสบายใจในที่ทำงาน HR ก็ควรอัปเดตข่าวสารให้กับพนักงานในบริษัทตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยอาจใช้เป็นอีเมลภายในประกาศว่าพนักงานที่ป่วยได้ตรวจดูอาการและไม่พบเชื้อตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ และพนักงานคนนั้นจะกลับมาทำงานที่ออฟฟิศตั้งแต่วันที่เท่าไหร่
ต้อนรับการกลับมาของพนักงานอย่างอบอุ่นและห่วงใย
เมื่อพนักงานรักษาตัวจนพร้อมกลับมาทำงานแล้ว การที่ HR มอบหรือส่งอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พนักงานก็สามารถสร้างกำลังใจการทำงานและความรู้สึกอบอุ่นให้กับพนักงานได้ โดยของที่จะมอบให้อาจเป็นผลไม้พร้อมกับการ์ด หรือจะส่งข้อความผ่านทางอีเมลส่วนตัวของพนักงานเพื่อต้อนรับการกลับมาและขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงก็ได้
ติดตามสถานการณ์และเตรียมรับมือตลอดเวลา
หน้าที่ของคนทำงานฝ่ายบุคคลคือการดูแลทรัพยากรบุคคลในบริษัทให้ดี และเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้ เราควรติดตามข่าวการแพร่ระบาดอยู่เรื่อย ๆ เพื่อเตรียมแผนรับมือที่สอดคล้องกับตัวมาตรการของทางรัฐ
ที่มา Jobthai