9 เทคนิคสื่อสาร ลดความกลัว การขัดแย้งในการทำงาน

          การสื่อสารอย่างสันติ (Nonviolent Communication: NVC) คิดค้นขึ้นโดย Marshall B. Rosenberg ผู้ก่อตั้งศูนย์ที่มีชื่อว่า “The Center for Nonviolence Communication” Rosenberg เกิดที่เมือง Detroit ในรัฐ Michigan ซึ่งที่นั่นทำให้เขาพบเห็นความรุนแรงหลากหลายรูปแบบเกิดขึ้นรอบตัวของเขา ทำให้เขาเกิดแรงจูงใจในการค้นหาสาเหตุของความรุนแรงและต้องการหาแนวทางในการลดความรุนแรงเหล่านั้นลง เขาจึงเลือกเรียนในสาขาจิตวิทยาคลินิกและได้รับปริญญาเอกจากสาขาดังกล่าวในปี ค.ศ. 1961 โดยศูนย์ที่ Rosenberg ก่อตั้งนั้นมีวิสัยทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับการลดความรุนแรงในสังคมลง

  • ทุกคนมีคุณค่าคู่ควรที่จะได้รับการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ผ่านการใช้ชีวิตที่มีสติรู้ตัว เชื่อมโยงกับสรรพสิ่งที่เป็นแหล่งพลังงานของชีวิต และกลมกลืนกับธรรมชาติ
  • ทุกคนสามารถโอบรับความเป็นตัวเองได้อย่างมีเมตตากับตัวเอง (Self-compassion)
  • ผู้คนมีจิตใจที่เบิกบานและมีเมตตาต่อกัน แก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีที่สันติ

        การสื่อสารอย่างสันติเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขความขัดแย้งในการทำงานและสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างทีมงาน น้องบีพลัสมีขั้นตอนที่สามารถช่วยให้ความขัดแย้งนี้แก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาแนะนำกัน

  1. ฟังและเข้าใจ เมื่อคุณพบความขัดแย้งในการทำงาน อย่าทำการตอบโต้ทันที แต่จงฟังคนอื่นอย่างรอบคอบก่อน พยายามเข้าใจเหตุผลและมุมมองของผู้อื่น การฟังอาจช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น.
  2. พูดอย่างชัดเจนและสุภาพ เมื่อคุณต้องการสื่อสารเรื่องความขัดแย้งของคุณ ให้พูดอย่างชัดเจนและสุภาพ ไม่ควรใช้ภาษาที่ทำให้เพิ่มความยุ่งยากหรือเกิดการเอาหน้า.
  3. ใช้การติดต่อหลายช่องทาง การสื่อสารไม่จำเป็นต้องเป็นการประชุมหรือการพูดตามโทรศัพท์เท่านั้น คุณสามารถใช้อีเมลหรือข้อความเพื่อสื่อสารในกรณีที่คุณต้องการให้ข้อมูลที่สำคัญถูกบันทึกลงเป็นลายลักษณ์อักษร.
  4. ให้ข้อมูลที่มีหลักฐาน ถ้าคุณมีข้อมูลหรือหลักฐานที่เป็นประโยชน์สามารถสนับสนุนเรื่องที่คุณกล่าวได้ นี่คือวิธีที่ดีในการประเมินและแก้ไขความขัดแย้ง.
  5. หาทางแก้ไขร่วมกัน ให้ความสำคัญในการหาทางแก้ไขร่วมกัน พยายามหาทางที่ทั้งฝ่ายสามารถยอมรับและใช้ประโยชน์จากนั้น.
  6. เผชิญหน้ากับอารมณ์ แม้ว่าคุณอาจไม่เห็นด้วยกับความรู้สึกของคนอื่น ก็ควรให้ของมองอารมณ์ของพวกเขา และพยายามให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาได้รับการฟังและเข้าใจ.
  7. หาผู้กลาง ถ้าความขัดแย้งยังคงอยู่และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง คุณอาจต้องหาบุคคลที่เป็นผู้กลาง เช่นผู้จัดการหรือเจ้าหน้าที่ทรัพยากรบุคคล เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหา.
  8. สร้างแผนการแก้ไข หลังจากที่คุณและทีมงานได้พูดคุยและเข้าใจกัน คุณควรสร้างแผนการแก้ไขความขัดแย้ง และติดตามดูผลลัพธ์ของการแก้ไขเรื่องนี้.
  9. การเรียนรู้และปรับปรุง ความขัดแย้งอาจเป็นโอกาสในการเรียนรู้และปรับปรุงกระบวนการการทำงานของทีมและองค์กรให้ดียิ่งขึ้น.

 

ที่มา istrong