องค์กรที่ก้าวหน้าจะต้องมีองค์ประกอบที่ดีหลายส่วนร่วมกัน ทั้งแผนการตลาด การบริหารงาน ช่องทางธุรกิจ และที่สำคัญที่สุดคือ บุคลากรที่มีประสิทธิภาพ แม้ในปัจจุบันเทคโนโลยีจะมีส่วนช่วยในการดำเนินงานของบริษัทได้มาก แต่ก็ยังคงต้องอาศัยเจ้าหน้าที่หรือพนักงานที่จะวางแผนจัดการเทคโนโลยีเหล่านั้นให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
ทรัพยากรบุคคลถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กร การมีพนักงานที่ดี ทำงานด้วยความเต็มใจ และมีความจงรักภักดีต่อบริษัท จะช่วยรักษาผลประโยชน์ให้บริษัท ทั้งการลดค่าใช้จ่ายภายในบริษัท การหารายได้เพิ่มให้กับบริษัท การรักษาผลประโยชน์จากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากงาน เป็นต้น ดังนั้น บุคลากรที่จงรักภักดีและเต็มใจทำงานเพื่อองค์กร จึงเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้องค์กรเจริญก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว
1.เชื่อมั่นในทีมบริหาร
การสร้างความเชื่อมั่นให้พนักงานมั่นใจว่า ทีมผู้บริหารของบริษัทสุดเจ๋ง.. เก่ง.. เยี่ยมยุทธ์.. มีความรู้ ความสามารถมากพอที่จะนำตนเองและองค์กรให้ก้าวหน้า และขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ในสายงานนั้นๆ ได้ หากพนักงานรู้สึกมั่นใจว่าองค์กรมั่นคงก็จะมั่นใจว่าตนเองจะก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ และพร้อมจะใช้ความสามารถที่ตนมีบวกกับการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อร่วมพัฒนาบริษัทไปพร้อมๆ กัน
2.คุณคือคนสำคัญในองค์กร
การสร้างความมีตัวตนให้กับพนักงานถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทุกองค์กร เนื่องจากทุกคนถือเป็นเฟืองจักรที่ช่วยให้องค์กรเดินหน้าได้ แม้จะเป็นเพียงพนักงานตำแหน่งเล็กๆ ก็มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนองค์กรเช่นกัน ดังนั้นการให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนด้วยความใส่ใจ เช่น การเรียกชื่อ การจดจำรายละเอียดของกันและกันบ้าง การพูดจาทักทาย หรือกล่าวชื่นชม แสดงออกถึงการรับรู้ถึงความสำเร็จของพนักงาน ก็ช่วยสร้างความผูกพันให้เกิดขึ้นภายในองค์กรได้ Business Plus HRM มีเครื่องมือเพื่อช่วยสนับสนุน Reward and Recognition เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานบุคคลให้ดียิ่งขึ้น
3.สัญญาต้องเป็นสัญญา
การรักษาคำพูด หรือข้อตกลงที่ได้ตกลงกันไว้กับพนักงาน ถือเป็นเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่ง เนื่องจากพนักงานที่ดีจะไม่เพียงแต่แค่ทำงานให้จบไปวัน ๆ แต่จะพยายามทำให้ได้ตามเป้าที่ได้รับมอบหมายไว้ ซึ่งอาจจะผ่านการตกลงหรือให้คำสัญญาต่างๆ ไม่เพียงแต่เรื่องเงิน แต่อาจจะรวมถึงสิทธิ์ ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงใดๆ ถือเป็นเรื่องที่องค์กรพึงระวัง เพราะนั่นคือ สัญญาณเตือนภัยแห่งการสูญเสียบุคลากรที่ดีขององค์กรไปให้กับองค์กรอื่น ด้วยเหตุผลว่า บริษัทไม่ซื่อสัตย์ โกหก ไม่ทำตามสัญญา
4.แบ่งเบาภาระงานด้วยเทคโนโลยี
การช่วยเหลือด้วยการให้ความรู้และสนับสนุนการเรียนรู้ในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ จะช่วยให้งานมีประสิทธิภาพ รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการลงทุนที่ถูกที่ถูกเวลา พนักงานก็จะรู้สึกว่าบริษัทช่วยเหลือแบ่งเบางานและได้รับความรู้เพิ่มขึ้น ส่วนบริษัทเองก็ได้งานที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
5.ปัญหาเล็ก หรือใหญ่ร่วมแก้ไขอย่างเต็มที่
เมื่อพนักงานเกิดปัญหา ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต้องใสใจกัน ช่วยแก้ปัญหาฉับพลัน อย่างไม่นิ่งนอนใจ ทั้งปัญหาเกี่ยวกับงานหรือปัญหาส่วนตัวของพนักงานเอง ปัญหาใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้น ไม่ได้ต้องการคนผิด แต่ต้องการการแก้ไข การใส่ใจเห็นอกเห็นใจ และให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะปัญหาส่วนตัวที่อาจกระทบกับงาน ถ้าได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากองค์กร ยิ่งเรียกว่าเป็นการซื้อใจพนักงานให้จงรักและภักดีกับองค์กรอยู่กันแบบครอบครัวเลยทีเดียว
การสร้างความซื่อสัตย์จงรักภักดี และผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กร ถือเป็นการปรับเปลี่ยนทั้งพฤติกรรมของบุคคลรูปแบบการจัดการระบบของบริษัท และกระบวนการทางความคิดของผู้บริหาร อาจจะไม่สามารถเกิดได้ภายใน 1 – 2 วันคงต้องใช้เวลาปรับกันแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เชื่อว่าหากองค์กรใส่ใจ และมีเป้าหมายที่จะสร้างสังคมที่มีแต่บุคลากรที่ทำงานด้วยใจแล้ว ย่อมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน
ที่มา www.impressionconsult.com