Work from Home แต่ละครั้ง จะต้องเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา รวมถึงหากคุณต้องสนทนาแบบเห็นภาพ ก็ต้องดูแลบุคลิกภาพให้ดูดีก่อนเริ่มต้นประชุม
จัดโต๊ะทำงาน ฉากหลังไม่ให้รก
เลือกพื้นที่จุดใดจุดหนึ่งของบ้านเพื่อใช้เป็นพื้นที่ประชุม ต้องไม่ให้เด็กๆ เข้ามารบกวน และต้องมีแสงสว่างที่เพียงพอ รวมถึงหากมีแสงจ้าจนเกินไปควรมีม่านบังแสง ส่วนบริเวณโต๊ะทำงานควรหยิบของที่จะบังเครื่องคอมพิวเตอร์ออก อาจจะทำให้ดูรก และสิ่งของเหล่านั้นอาจมีผลต่อการสะท้อนของเสียงขณะสนทนาด้วย
เช็กสัญญาณอินเทอร์เน็ต เร็ว แรง ไม่สะดุด
ก่อนเริ่มงานควรเช็กสัญญาณอินเทอร์เน็ตก่อน (Speed Test) หากพบความผิดพลาดให้โทรแจ้งกับเจ้าของสัญญาณเครือข่าย วางแผนสำรองไว้ได้ด้วยการเผื่อตัวเลือกย้ายมาใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตจากมือถือ (Hot Spot) สมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่เพียงพอกับการใช้งานสนทนาแบบเห็นภาพไว้ด้วย เพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตมีผลต่อการรับภาพและเสียง หากการสนทนาสะดุด จะทำให้พลาดสาระสำคัญของเนื้อหาและอาจดำเนินงานผิดพลาดได้ หากสนทนากันแล้วไม่เคลียร์ ควรโทรสอบถามกับผู้ร่วมสนทนาโดยตรงอีกขั้น ป้องกันความคลาดเคลื่อน
ใช้อุปกรณ์ที่ดี ประชุมราบรื่น
ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ การประชุมแบบเห็นภาพส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป หรือ แท็บเล็ต แต่หากตั้งไว้ที่โต๊ะแล้วพูดเสียงจะผ่านไมโครโฟนที่ติดอยู่ในตัวเครื่อง ซึ่งต้องหมั่นเอาแอลกอฮอล์เช็ดไม่ให้สิ่งสกปรกไปอุดตันเพราะมันจะกีดกันสัญญาณเสียง และแก้ไขได้โดยใช้การสนทนาด้วยหูฟัง 3.5 mm. แบบเดียวกับที่เราใช้คุยโทรศัพท์ จะได้คุณภาพเสียงที่ชัดกว่า
เสื้อผ้าหน้าผมต้องดูดี
แม้จะอยู่บ้านแต่ก็จำเป็นจะต้องแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม ให้ดูดี สามารถแต่งตัวแบบลำลองและดูดีได้ โดยเลือกชุดที่ปกป้องร่างกายมิดชิด และเสริมบุคลิกภาพขณะพูดได้ด้วยการตั้งกระจกไว้ข้างหน้า เพื่อให้คุณมั่นใจเวลาพูดคุยกับคนอื่นๆ เสมือนอยู่ตรงหน้ากันจริงๆ
บอกกับทุกคนในบ้านด้วยว่าจะใช้พื้นที่ห้องนี้ประชุม
หากมีใครในบ้านโผล่เข้ามาร่วมเฟรมด้วย ทั้งสัตว์เลี้ยง คนข้างบ้าน คนส่งของ ก็อาจจะขัดจังหวะการสนทนา ทำให้เสียบรรยากาศไปได้อีก เพราะฉะนั้นแล้วหากจะต้องมีประชุมแบบเห็นหน้ากับทีม จะต้องแจ้งกับคนในบ้านด้วยว่าจะใช้ห้องนี้เป็นที่ประชุม จะได้ไร้เสียงรบกวน และเข้าใจตรงกัน
ที่มา ไทยรัฐ
