ยิ่งใช้เวลาในการคัดเลือกบุคลากรนานมากเท่าไหร่ ยิ่งเสียโอกาส และสิ้นเปลืองทรัพยากรมากเท่านั้น บริษัทจะทำอย่างไร เพื่อที่จะลดเวลาในกระบวนการจ้างงาน และงบประมาณไม่ให้บานปลาย
1. ระบุข้อมูลในประกาศรับสมัครงานให้ชัดเจน
บางบริษัทให้เวลากับทุกรายละเอียดในประกาศรับสมัครงาน ทั้งประวัติบริษัท ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้สมัครงาน คุณสมบัติที่ต้องการ เอกสารที่ต้องการ วันปิดรับสมัครงาน รวมถึงที่ตั้งบริษัท แผนที่ หมายเลขโทรศัพท์ และเว็บไซต์ ซึ่งเมื่อทุกอย่างชัดเจน อ่านแล้วเข้าใจง่าย ก็ไม่ต้องคอยตอบคำถามของผู้สมัครงาน และได้ใบสมัครงานที่ตรงกับความต้องการ
2. สอบถามผู้จัดการแผนกให้ชัดเจนว่าต้องการคนแบบใด
ก่อนที่จะดำเนินการรับสมัครพนักงาน เพื่อที่จะไม่เสียเวลาเดาใจผู้จัดการแต่ละแผนกว่าเขาต้องการคนแบบใด ควรจะสอบถามทำความเข้าใจกับผู้จัดการแผนกนั้น ๆ ก่อน เพราะจะได้คัดกรองคนที่ไม่ใช่ออกไปได้ในระดับหนึ่งก่อน เหลือแต่คนที่มีคุณสมบัติเข้าตาไว้ให้ผู้จัดการแผนกได้ดำเนินการสัมภาษณ์งานต่อไป
3. ทยอยอ่านเรซูเม่วันละ 15 นาที
แม้อาจจะต้องรับผิดชอบงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ควรให้เวลากับการอ่านเรซูเม่ของผู้สมัครงานทุกวัน วันละประมาณ 15 นาที เพื่อที่ว่าเรซูเม่ที่ผู้สมัครงานส่งมาจะได้ไม่กองพะเนิน จนรู้สึกเหนื่อยกับการอ่านเรซูเม่นับร้อยฉบับให้หมดในวันปิดรับสมัครงาน วิธีนี้จะช่วยให้สามารถจัดการกับเรซูเม่ทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญไม่เหนื่อยด้วย
4. ตั้งคำถามที่วัดกึ๋นผู้สมัครงานในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
ไม่ควรเสียเวลานานในการสัมภาษณ์งานทางโทรศัพท์ การประหยัดเวลาเท่ากับการประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วย ดังนั้นจึงควรตั้งคำถามสามารถวัดกึ๋นของผู้สมัครงานได้ว่า คน ๆ นี้น่าสนใจหรือไม่ จะได้ไม่เสียเวลาไปกับคนที่ไม่ใช่ นานเกินความจำเป็น
5. ผู้จัดการควรได้รับการฝึกสัมภาษณ์งาน
บางครั้งผู้จัดการมือใหม่ก็ดูไม่เป็นธรรมชาติในการสัมภาษณ์งาน จึงควรมีการจัดฝึกอบรมเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งานเพื่อให้ผู้จัดการสามารถดำเนินการสัมภาษณ์งาน คัดเลือกบุคลากรได้อย่างมืออาชีพ จะได้ไม่เสียผู้สมัครงานฝีมือดี เสียเวลา และเสียงบประมาณในการรับสมัครพนักงาน
6. สัมภาษณ์งานเป็นกลุ่มหรือสัมภาษณ์งานในวันเดียวกัน
ในการสัมภาษณ์งานรอบแรก อาจใช้วิธีสัมภาษณ์ผู้สมัครงานพร้อมกันหลายคนก็ได้ จะได้เห็นผู้สมัครงานที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม ซึ่งช่วยให้สามารถคัดกรองผู้สมัครงานได้ง่ายขึ้น และเมื่อได้ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ อาจนัดให้ผู้สมัครงานเข้ามาสัมภาษณ์งานภายในวันเดียวกันเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะได้จบกระบวนการคัดเลือกบุคลากรในเวลาอันสั้น
7. ให้ผู้สมัครงานได้ทดสอบความสามารถ
สำหรับผู้ที่ผ่านการสัมภาษณ์งานรอบแรก อาจให้การบ้านพวกเขา และนำมาพรีเซนต์ในการสัมภาษณ์งานครั้งต่อไป นอกจากเป็นการทดสอบความสามารถแล้ว ยังช่วยให้กระบวนการสัมภาษณ์งานไม่ยืดเยื้ออีกด้วย
8. แม้จะคัดเลือกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ควรรีบเร่ง
อย่าละเลยขั้นตอนของการตรวจสอบประวัติของผู้สมัครงานก่อนตัดสินใจจ้างงาน ควรมีการตั้งคำถามกับตัวเองด้วยว่า ได้ทำทุกอย่างในการคัดเลือกผู้สมัครงาน เพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมที่สุดอย่างเต็มความสามารถแล้วหรือยัง ขั้นตอนการตัดสินใจเลือกคนที่ใช่เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด เรียกประชุมผู้มีอำนาจตัดสินใจมาช่วยกันตัดสิน ให้เวลากับการเลือกคนที่ “ใช่” ย่อมคุ้มกว่าการเปิดรับสมัครคนอีกรอบหนึ่ง เมื่อมารู้ว่าคนที่เลือกมานั้นกลับกลายเป็นคนที่ “ไม่ใช่” ในภายหลัง
ความสามารถในการบริหารจัดการเป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการรับสมัครงาน การคัดกรองผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์งาน การทดสอบความสามารถ หรือการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุด ถ้าคุณรู้เทคนิคคุณก็จะสามารถคัดเลือกคนที่ใช่ ได้ในเวลาไม่นาน ประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณบริษัท
ที่มา JobsDB