รับมืออย่างไร เมื่อเพื่อนร่วมงานที่เราสนิทด้วย “ลาออก”

          ความรู้สึกที่เพื่อนร่วมงานที่เราสนิทด้วยลาออกนั้น (ไม่ว่าเขาจะบอกให้เรารู้ล่วงหน้าหรือไม่ก็ตาม) เป็นความรู้สึกที่แย่และอาจเหมือนโลกแตกสลายได้ในบางคน มันเป็นความรู้สึกที่คนวัยทำงานหลายคนไม่อยากจะรับรู้เท่าไรนัก แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราห้ามเขาไม่ได้ และไม่มีทางที่มันจะไม่เกิดขึ้น เมื่อต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร เราจะกลายเป็นพนักงานเก่าที่รายล้อมไปด้วยคนใหม่ ทั้งที่ตัวเราเองก็ทำงานได้แค่ไม่กี่ปี ส่วนคนที่เคยผ่านเรื่องราวยาก ๆ มาด้วยกัน ลาออกไปแล้ว

          การที่ใครสักคนหนึ่งจะลาออก แปลว่าเขามีเหตุผลส่วนตัวของเขา ที่เราอาจจะเข้าไม่ถึงก็เป็นได้ ซึ่ง ณ จุดนั้น เราเองก็ไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามหรือเข้าไปวุ่นวายกับการตัดสินใจของคนอื่น

 

ผูกสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่

เพื่อนใหม่ในที่นี้ จะเป็นใครก็ได้ อาจเป็นคนที่ทำงานด้วยกันมาตั้งนานแล้วแต่ไม่ค่อยได้คุยกัน หรือจะเป็นคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งก็สามารถเป็นได้ทั้งคนที่แก่กว่าและเด็กกว่านั่นเอง การเริ่มต้นผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ มันก็คือการหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจใหม่ เพราะคนเราจะอยู่บนโลกเพียงลำพังไม่ได้ และจะอยู่ในสังคมการทำงานโดยไม่คบใครเลยก็คงจะไม่ได้เหมือนกัน อย่างน้อย ๆ ก็ต้องทำงานด้วยกัน ไว้เป็นคนที่ปรับทุกข์ระหว่างกันได้เสมอ เรื่องส่วนตัวบ้าง เรื่องงานบ้าง หรือจะเป็นเรื่องความคับข้องใจบางอย่างจากสังคมในออฟฟิศก็ได้

 

ให้กำลังใจตัวเองว่าต้องอยู่ให้ได้

การจากลาเป็นเรื่องธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต มีพบก็ต้องมีจากเป็นธรรมดา คุณแค่ต้องทำความเข้าใจ ยอมรับความจริง และบอกกับตัวเองว่าคุณต้องอยู่ให้ได้ แม้ว่าคุณจะเสียเพื่อนร่วมงานที่คุณสนิทด้วยไปเพราะเขาลาออก แน่นอนว่ามันก็คงกระทบกระเทือนจิตใจของคุณอยู่บ้าง ยิ่งผูกพันก็ยิ่งรู้สึกเสียใจ สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือ คุณอาจมีความรู้สึกโดดเดี่ยว เซื่องซึม เหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง คุณแค่ต้องให้กำลังใจตัวเองให้มาก ๆ เตือนตัวเองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ว่าไม่ว่าใครจะลาออก คุณก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป และต้องอยู่ให้ได้ 

 

จดจ่อกับงานให้มากกว่าเดิม

วิธีนี้จะคล้าย ๆ กับคนที่อกหักแล้วบ้างานมากกว่าเดิม พูดให้ง่ายก็คือ เป็นการพยายามทำให้ตัวเองยุ่ง ๆ วุ่นวายเข้าไว้ จะได้ไม่มีเวลาไปคิดอะไรฟุ้งซ่าน คิดถึงเพื่อนสนิทที่เคยผ่านงานยาก ๆ มาด้วยกัน โดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นคู่หูคู่คิดกันมาโดยตลอด ถึงเวลานี้คุณต้องรับผิดชอบงานนี้คนเดียว คุณก็ยังต้องรักษามาตรฐานและทำมันให้ออกมาดีเหมือนเดิม คุณแค่ต้องทำงานนี้ต่อไปโดยไม่มีเพื่อนสนิทคนนั้นแล้วเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าคุณจดจ่อและทุ่มเทกับงานให้มากขึ้น ค่อย ๆ ปรับตัวไปสักพัก คุณก็จะพบหนทางที่จะทำให้ตัวเองอยู่อย่างมีความสุขอีกครั้งได้เอง

 

อย่าสิ้นคิดด้วยการลาออกตาม

ถือเป็นปฏิกิริยาที่สิ้นคิดมาก ถ้าคุณยื่นใบลาออกด้วยเหตุผลเพื่อนร่วมงานที่คุณสนิทด้วยเขาลาออก คุณเลยอยู่ไม่ได้ จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตไปผูกติดกับใคร ชีวิตนี้เป็นของคุณจะทำตามคนอื่นไปทำไม คุณต้องเข้าใจว่าความคิดและทัศนคติ รวมถึงความอดทนของคนเราแตกต่างกัน เหตุผลที่เขาเขียนใบลาออก มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องเป็นเดือดเป็นร้อนจนถึงขั้นลาออกตาม คุณแค่ต้องปรับตัว ต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง อยู่ตามลำพังให้เป็น ไม่ว่าจะเคว้งคว้างแค่ไหนก็ตาม คุณยังมีนู่นนี่นั่นที่ต้องรับผิดชอบ จะบอกว่าอยู่ไม่ได้เพราะคนสนิทเขาไม่อยู่ด้วย ไม่ได้

 

เลิกยึดติดที่ตัวคน

ในทุกช่วงชีวิตของมนุษย์ เราต้องพบปะผู้คนนับร้อยนับพัน เปลี่ยนหน้าตาไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น อย่าไปยึดติดที่ตัวบุคคลคนใดคนหนึ่งให้มากนักเลย เมื่อถึงจุดหนึ่งเราต่างก็ต้องแยกย้ายไปตามทางอยู่ดี เหมือนกับตอนที่เรียนหนังสือนั่นแหละ พอเรียนจบก็ทางใครทางมัน จากคนที่สนิทกันมาก ๆ สมัยเรียน เจอกันอีกทีอาจจะจำหน้ากันไม่ได้เลยก็มี เมื่อถึงเวลาอันสมควร ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป คนเราก็ต้องแยกย้ายไปตามทาง วิธีรับมือก็แค่ต้องปรับตัวให้ไวปรับใจให้ทัน คนเก่าออกไป เดี๋ยวคนใหม่ก็เข้ามา ต้องพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

 

ที่มา  Sanook.com