วันนี้น้อง Bplus จะมาพูดถึงคำที่เป็นกระแสในวงการ HR อยู่ตอนนี้ คือคำว่า “The Great Attraction” เป็นผลสืบเนื่องมาจาก กระแสการลาออกเป็นจำนวนมากในช่วงยุคโควิด เพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือลองหาแนวทางใหม่ ๆ จนแรงงานที่มีฝีมือในระบบลดน้อยลงไปมาก จึงทำให้เกิดปัญหาการแข่งขันด้านแรงงาน และได้เปลี่ยนจากการแย่งตัวคนเก่งไปเป็นการรักษาพนักงานเดิมให้อยู่กับองค์กร เพื่อรับมือกับปัญหาขาดแคลนพนักงานที่มีคนอยู่ในระบบไม่เพียงพออีกต่อไป
The Great Attraction หมายถึงกลยุทธ์และความพยายามขององค์กรต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจและอุทธรณ์สำหรับทั้งพนักงานที่มีอยู่และพนักงานใหม่ที่มีศักยภาพ ด้วยการทำให้สถานที่ทำงานมีสภาพแวดล้อมที่น่าดึงดูด องค์กรต่างๆ ตั้งเป้าที่จะรักษาพนักงานปัจจุบันและดึงดูดบุคคลที่มีความสามารถให้เข้าร่วมตำแหน่งของตน ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การเสนอเงินเดือนและสวัสดิการที่แข่งขันได้ การให้โอกาสในการเติบโตและการพัฒนา การส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานเชิงบวก และการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและมีส่วนร่วม หาสิ่งที่ตรงใจพนักงานที่สุด รวมถึงต้องทำให้เขารู้สึกมีคุณค่า เช่น หากองค์กรต้องการสร้างวิถีแห่งการเรียนรู้ในหมู่พนักงาน เราก็ต้องชี้ให้เห็นว่าการที่พนักงานมีความรู้มากขึ้นจะทำให้พวกเขาต่อยอดทางอาชีพได้ง่ายกว่าเดิมอย่างไร
The Great Attraction ไม่ได้มีไว้ดึงดูดคนรุ่นใหม่อย่างเดียว เพราะคนรุ่นเก่าที่ใฝ่รู้และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ก็สามารถเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กรได้เช่นกัน HR จึงต้องคิดสวัสดิการเพื่อดึงดูดคนทุกเพศทุกวัยให้ครอบคลุมที่สุด ไม่ควรใช้สวัสดิการแบบ One Size Fit All เด็ดขาด
The Great Attraction จำเป็นต้องมาพร้อมกับความรอบรู้ สิ่งที่เคยได้ผลในอดีตอาจไร้ค่าในสังคมปัจจุบัน ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องยากขึ้นแต่ก็ต้องทำ
The Great Attraction จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยตอบคำถามที่เกิดขึ้นในหมู่พนักงานว่างานที่กำลังทำอยู่ หรืองานที่กำลังกลับไปทำ จะช่วยให้เรากลายเป็นคนที่เก่งขึ้นได้จริงไหม สามารถรับมือกับอนาคตและดูแลครอบครัวคนรักได้หรือไม่ ? นี่คือประเด็นสำคัญที่องค์กรต้องเรียนรู้เพื่อดึงดูดพนักงานหน้าใหม่ และยึดโยงพนักงานเก่าที่มีฝีมือเอาไว้พร้อม ๆ กัน
การสร้างแรงดึงดูดเพื่อจูงใจผู้คน จึงยกระดับจากการสร้างภาพลักษณ์หรือแบรนด์ดิ้งแบบทั่วไป กลายเป็นการบูรณาการองค์ความรู้ทุกอย่างเพื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรมองค์กร, นโยบาย ตลอดจนการกำหนดทักษะที่จำเป็นของบุคลากรแต่ละตำแหน่งขึ้นใหม่เพื่อสร้าง The Great Attraction ที่ช่วยโน้มน้าวคนได้อย่างดีที่สุด โดยสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากฝ่ายบุคคลไม่เรียนรู้ และหาวิธีการใหม่ ๆ มาให้กับพนักงาน
การสร้างแรงดึงดูดหรือแรงจูงใจ เพื่อให้พนักงานเดิมอยากอยู่กับองค์กรต่อไป และสามารถโน้มน้าวคนที่มีฝีมือให้เข้ามาสู่องค์กร สามารถทำได้ผ่านหลายวิธี
-
การพัฒนาบรรยากาศที่ดีในที่ทำงาน
การสร้างสภาพแวดล้อมที่ทรงพลังและสนับสนุนให้พนักงานรู้สึกสบาย มีความพึงพอใจ และสามารถทำงานอย่างมีสมาธิและความสุขได้
-
การพัฒนาโอกาสในการเรียนรู้และการเติบโต
ให้โอกาสในการพัฒนาทักษะและความรู้ให้กับพนักงาน เช่น การฝึกอบรม การพัฒนาอาชีพ และโอกาสในการเลื่อนขั้นตำแหน่งในองค์กร
-
การสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจในวิสัยทัศน์และค่านิยมขององค์กร
สร้างความเข้าใจและความรู้ในเรื่องวิสัยทัศน์และการทำงานขององค์กร เพื่อให้พนักงานรู้สึกเชื่อมั่นและมุ่งมั่นในการทำงาน
-
การพัฒนาความสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีม
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและส่งเสริมการทำงานเป็นทีมที่มีความร่วมมือและความเข้าใจกัน
-
การสร้างโปรแกรมสวัสดิการและผลประโยชน์ที่ดี
การให้โปรแกรมสวัสดิการที่มีคุณค่าแก่พนักงาน เช่น บริการสุขภาพ การลาพักร้อน และโปรแกรมสวัสดิการการเงิน
การใช้ "The Great Attraction" เป็นหลักการในการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในที่ทำงานอาจช่วยให้องค์กรมีพนักงานที่มีผลสร้างและมีคุณภาพมากขึ้น
ที่มา hrnote.asia