ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
คำพิพากษาฎีกาที่ 8919/2552
การดูหมิ่นผู้อื่น หมายถึง การดูถูกเหยียดหยาม สบประมาท หรือทำให้อับอายการวินิจฉัยว่าการกล่าววาจาอย่างไรเป็นการดูหมิ่นผู้อื่นหรือไม่จึงต้องพิจารณาว่าถ้อยคำที่กล่าวเป็นการดูถูกเหยียดหยามสบประมาทผู้ที่ถูกกล่าว หรือเป็นการทำให้ผู้ที่ถูกกล่าวอับอายหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ถือได้ว่าเป็นการดูหมิ่นแล้ว
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายคำว่า “ตอแหล” ว่า เป็นคำด่าคนที่พูดเท็จ ซึ่งมีความหมายในทางเสื่อมเสีย การที่จำเลยกล่าวถ้อยคำดังกล่าวต่อผู้เสียหายจึงเป็นการพูดด่าผู้เสียหาย เป็นการดูถูกเหยียดหยามและสบประมาทผู้เสียหายว่าเป็นคนพูดเท็จ จึงเป็นการดูหมิ่นผู้เสียหายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393
การด่าเพื่อนร่วมงานหรือใครก็ตาม ด้วยคำพูดที่เสแสร้งหรือเป็นคำหมิ่นประมาท ไม่ใช่วิธีการจัดการที่เหมาะสมในสถานการณ์ที่มีข้อขัดแย้งหรือปัญหากับเพื่อนร่วมงาน การแก้ไขข้อขัดแย้งหรือแก้ปัญหาในสถานการณ์ทางทฤษฎีและสาธารณะมักจะเป็นวิธีที่ดีกว่า การใช้คำพูดที่เต็มไปด้วยความเคารพและการเสนอความคิดหรือปรับเปลี่ยนเพื่อแก้ไขสถานการณ์ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเพื่อนร่วมงานดีขึ้นได้มากกว่าการด่า หรือใช้คำพูดที่ทำให้เป็นคำหมิ่นประมาท ดังนั้นควรระวังและรู้สึกมั่นใจในคำพูดของเราเสมอ และพยายามใช้วิธีการที่สร้างสรรค์เมื่อต้องแก้ข้อขัดแย้งหรือปัญหากับผู้อื่นในสถานที่ทำงานเสมอ
ที่มา คลินิกกฎหมายแรงงาน