การเป็นผู้ทำบัญชี
ผู้ทำบัญชี หมายความว่า ผู้รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี มี 5 ประเภท คือ
- ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
- บริษัทจำกัด
- บริษัทมหาชนจำกัด
- กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
- นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย
คุณสมบัติของผู้ทำบัญชี
- มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
- มีความรู้ภาษาไทยเพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ทำบัญชีได้
- เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีหรือขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพบัญชี
- ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ในมาตรา 39(3) แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพบัญชีพ.ศ. 2547 เว้นแต่ต้องคำพิพากษา หรือ พันโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
- มีคุณวุฒิการศึกษา แบ่งตามขนาดธุรกิจ ได้ 2 ระดับ
- ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบัญชีหรือเทียบเท่า สามารถเป็นผู้ทำบัญชีให้กับธุรกิจได้ทุกประเภทและทุกขนาดกิจการ
- ต่ำกว่าปริญญาตรี แต่ไม่ต่ำกว่านุปริญญาหรือปวส.ทางการบัญชีหรือเทียบเท่าสามารถเป็นผู้ทำบัญชีให้กับธุรกิจได้เฉพาะห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน และบริษัทจำกัดที่ ณ วันปิดรอบปีบัญชีที่ผ่านมา มีทุกรายการต่อไปนี้
- ทุนจดทะเบียน ไม่เกิน 5 ล้านบาท *
- สินทรัพย์รวม ไม่เกิน 30 ล้านบาท
- รายได้รวม ไม่เกิน 30 ล้านบาท
*ในกรณีเป็นรอบปีบัญชีแรกของธุรกิจ ให้ดูจากทุนจดทะเบียนของธุรกิจนั้น
ผู้ที่มีคุณสมบัติของผู้ทำบัญชีและได้รับผิดชอบในการทำบัญชีของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี
- แจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการทำบัญชีครั้งแรกภายใน 30 วันนับแต่วันที่รับทำบัญชี ที่ระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th
- ยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์
- เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
- หากอนุมัติ รับแจ้งเป็นผู้ทำบัญชีเมื่อเป็นผู้ทำบัญชีแล้ว"ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี"
- กรณีไม่อนุมัติ ให้แก้ไขคำขอ
เงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี
เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี กรณีต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี ดำเนินการได้ที่ระบบสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี www.tfac.or.th หากไม่ดำเนินการต่ออายุสมาชิกสภาฯ จะทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ทำบัญชี และไม่สามารถเข้าใช้ระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) ได้
การรับทำบัญชี รับทำบัญชีของธุรกิจได้ไม่เกิน 100 รายต่อปีปฏิทิน (โดยนับตามจำนวนรายธุรกิจ ไม่ได้นับตามรอบปีบัญชีงบการเงิน)
ผู้ทำบัญชีต้องเข้าระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) เพื่อปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ดำเนินการต่อไปนี้ ที่ ระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant) ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th
แจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการทำบัญชี ต้องแจ้งรายละเอียดการทำบัญชีภายใน 30 วันนับแต่วันที่เริ่มทำบัญชีการแจ้งเป็นผู้ทำบัญชีครั้งแรกข้อมูลที่ต้องแจ้ง ประกอบด้วย
- ข้อมูลของผู้ทำบัญชี ได้แก่ ชื่อ-สกุล ที่อยู่ วุฒิการศึกษาเบอร์โทร อีเมล เป็นต้น
- ข้อมูลการรับทำบัญชี คือ ธุรกิจที่รับทำบัญชี
ยืนยันรายชื่อธุรกิจ และยืนยันสมาชิกสภาฯ ยืนยันรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชี และยืนยันการเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีภายในวันที่ 30 มกราคมของปีถัดไป (เริ่มยืนยันได้ตั้งแต่ 1 มกราคมของปีถัดไป แต่ไม่ควรเกิน 30 มกราคม)
กรณีมีการเปลี่ยนแปลง ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงรายการที่แจ้งไว้ต้องแจ้งภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
- ข้อมูลของผู้ทำบัญชี ได้แก่ ชื่อ-สกุล ที่อยู่ วุฒิการศึกษาเบอร์โทร อีเมล เป็นต้น
- ข้อมูลการรับทำบัญชี คือ แจ้งเพิ่ม หรือ ยกเลิก ธุรกิจที่รับทำบัญชี (การแจ้งเพิ่ม หรือ ยกเลิก ต้องทำภายใน 30 วันนับแต่วันที่รับทำ หรือ ยกเลิกทำบัญชีให้ธุรกิจ)
การขอกลับมาเป็นผู้ทำบัญชี (กรณีแจ้งยกเลิกการเป็นผู้ทำบัญชี) ต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ทำบัญชี กรณีก่อนยกเลิก มีชั่วโมง CPD ไม่ครบ ต้องเข้ารับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องฯให้ครบจำนวนชั่วโมงตามระยะเวลาที่ขาดหายไปก่อนยกเลิกแต่เมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน 24 ชั่วโมง
พัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี CPD ต้องพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชี ไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมงต่อปีปฏิทิน มีชั่วโมงบัญชีไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง แจ้งชั่วโมง CPD ได้ทันทีหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม แต่ไม่เกิน 30 มกราคมของปีถัดไป
โดยแจ้งได้ 2 ช่องทาง คือ
1) ระบบงานผู้ทำบัญชี (e-Accountant)
2) ระบบ CPD Online ของสภาวิชาชีพบัญชี
หากไม่พัฒนาความรู้ต่อเนื่องฯ หรือชั่วโมง CPD ไม่ครบ แม้ว่าถูกเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายแล้ว ต้องเข้ารับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องฯ (CPD) ให้ครบจำนวนชั่วโมงตามระยะเวลาที่ขาดหายไป แต่เมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ไม่นับรวมจำนวนชั่วโมงในปีปัจจุบัน
ที่มา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า DBD