1. Bplus e-Commerce รองรับประเภทร้านค้าออนไลน์ทั้ง 4 แพลตฟอร์มดัง เช่น
- Lazada
- Shopee ร้านค้าที่จดทะเบียน Vat
- Shopee ร้านค้าที่ไม่จดทะเบียน Vat
- Tiktok แบบร้านค้าจดทะเบียนมูลค่าเพิ่ม
- Tiktok แบบร้านค้าไม่จดทะเบียนมูลค่าเพิ่ม
- Line My shop แบบชำระผ่าน Line ทั้ง Credit Card, Line Pay และ Rabbit
- Line My shop แบบชำระตรงไปที่ร้านค้า
2. ควบคุมงานการเงินกับแพลตฟอร์มด้วย การสร้างรหัสลูกหนี้ จำนวนราย เท่ากับ จำนวนร้านค้าที่เปิดในร้านค้า Online ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบยอดรายได้ตามร้านค้า
3. สร้างประเภทเอกสารขายแยกได้ตามจำนวนร้านค้าออนไลน์ เพื่อใช้ออกบิลขาย และใบกำกับภาษีเต็มรูปของร้านค้า Online นั้นและวิเคราะห์ยอดขายได้ตามร้านออนไลน์ที่เปิดแม้จะอยู่แพลตฟอร์มเดียวกันก็สามารถทราบยอดแยกได้ตามร้านค้าที่เปิดแยกในแพลตฟอร์มนั้น
4. ควบคุมค่าใช้จ่ายที่ต้องให้แพลตฟอร์มด้วย สร้างรหัสเจ้าหนี้ โดยรหัสเดียวกับลูกหนี้ และจำนวนราย เท่ากับ จำนวนร้านค้าที่เปิดในร้านค้า Online ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายที่ร้านค้า Online แต่ละร้านคิด
5. แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มีค่าธรรมเนียม ค่าเรียกเก็บที่ต่างกันได้ โปรแกรมตั้งค่ามาตรฐานให้ตามแพลตฟอร์มให้เรียบร้อย และสามารถแก้ไข เพิ่มเติมเองได้ เป็นค่าบริการที่ร้านค้า Online เรียกเก็บจากกิจการเป็นค่าดำเนินการให้ ประกอบด้วย
- ค่าจัดส่ง
- ค่าดำเนินการ
- ค่าเรียกเก็บ
- ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม
- ค่าคอมมิชชั่น
ตัวอย่างค่าใช้จ่าย เช่น Shopee
- คิดค่าคอมมิชชั่น 3.21% เป็นราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว (ค่าสินค่า - ส่วนลดร้านค้า)
- คิดค่าดำเนินการ Transaction Fee 3.21% เป็นราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วจาก (ค่าสินค่า - ส่วนลดร้านค้า + ค่าจัดส่งสินค้า)
- การจัดส่งสินค้าดำเนินการโดย Shopee สำหรับค่าจัดส่งสินค้า ร้านค้า Online จะเก็บจากลูกค้า โดยแสดงในเอกสารขายด้วย
- สำหรับบิลค่าใช้จ่าย ที่ Shopee เรียบเก็บ จะส่งมา 2 บิล
- บิลแรก ออกในนาม Shopee มี 2 รายการข้างต้น
- บิลสอง จะออกโดย บริษัทขนส่ง ตามค่าใช้จ่ายที่ตกลง
- Bplus ERP ช่วยลงบัญชีให้ครบทุกค่าใช้จ่าย งานการเงิน และงานภาษีครบ
6.ยอดขายนำเข้าโปรแกรม Bplus ERP ได้ถูกต้อง สะดวก ลดเวลางาน ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขปกติ หรือแคมเปญส่วนลดพิเศษในเทศกาลต่าง ๆ เช่น โปร 8.8 หรือ โปร 11.11 เป็นต้น
7. สามารถแยกและควบคุมสินค้าคงเหลือที่วางจำหน่ายในแต่ละแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้
8. คัดเลือกรายการสินค้า และ รหัสซื้อขาย เพื่อจำหน่ายแยกในแต่ละ แพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างสะดวก เพียงทำการผูก รหัสสินค้าของร้านค้า Online เข้ากับ รหัสซื้อขายของกิจการ ซึ่งทุกครั้งที่เพิ่มสินค้าที่ขายในร้านค้า Online ต้องผูกกับสินค้าของกิจการทุกครั้ง ทั้งนี้เมื่อรับคำสั่งซื้อผ่านทางร้านค้า Online แล้วจะสามารถจัดเตรียมสินค้าได้ถูกต้อง