![](https://www.businessplus.co.th/images/content2022/ERP/DK/H01.png)
1.ธนาคารหลายแห่ง ได้มีบริการอำนวยความสะดวกสำหรับกิจการที่ประสงค์จะชำระเจ้าหนี้ โดยการโอนการชำระ และได้ให้รูปแบบของเนื้อหาที่ธนาคารต้องการ และให้ผู้ประสงค์ที่จะโอนเขียนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าว แทนการที่ให้ผู้ประสงค์โอน ต้องทำการเขียนรายการ หรือ บันทึกการโอนทีละรายการ ซึ่งนอกจากจะสะดวกและลดความผิดพลาดยังช่วยลดเวลาการดำเนินการได้ด้วย
2. นอกจากนั้น รูปแบบเนื้อหาข้อมูลในแฟ้ม จะมีความแตกต่างกัน ขึ้นกับสาขาของธนาคารที่กิจการติดต่อและประเภทบัญชีและค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้ธนาคาร เป็นค่าดำเนินการ
3.สรุปสาระต่างๆ ได้ดังนี้
3.1 การโอนชำระเจ้าหนี้ แต่ละครั้งนั้น ประสงค์ให้ธนาคาร ทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีที่หัก ให้กรมสรรพากรด้วยหรือไม่
3.2 การโอนชำระเจ้าหนี้ จะทำการโอนในวันที่ระบุในแฟ้มคำสั่งโอน หรือ โอนหลังวันที่ระบุในแฟ้มคำสั่งโอนอีก 1 วัน
3.3 การโอนชำระเจ้าหนี้ ใครเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายค่าดำเนินการโอน กิจการที่สั่งโอน หรือเจ้าหนี้ที่ได้รับเงินโอน
3.4 เนื้อหาข้อมูลในแฟ้มคำสั่งโอน เป็นรูปแบบใด
4. โปรแกรม Bplus ERP ได้พัฒนาโดยอิงสิ่งที่กิจการส่วนใหญ่ใช้กันดังนี้
4.1 การหักภาษี ณ ที่จ่าย กิจการจะทำการหักภาษี ณ ที่จ่ายเอง และ นำส่งกรมสรรพากรเอง ทั้งนี้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้ธนาคาร
4.2 วันที่โอนเงิน จะโอนตามวันที่ระบุในแฟ้มคำสั่งโอน
4.3 ภาระค่าใช้จ่ายในการโอน กิจการที่สั่งโอนจะเป็นผู้รับภาระเอง
4.4 โปรแกรม Bplus ERP รองรับการเตรียมแฟ้มคำสั่งโอนดังนี้
4.4.1 ธนาคารกรุงเทพ มีรูปแบบ
4.4.1.1 Direct Credit Service (DCB02)
4.4.1.2 Smart Service (SMC06)
4.4.1.3 Direct Credit (DCP)
4.4.2 ธนาคารกสิกรไทย มีรูปแบบ
4.4.2.1 Smart Credit Next Day (MCL)
4.4.2.2 Smart Credit Same Day (MCS)
4.4.2.3 KBank Baht Net (BNL)
4.4.3 ธนาคารไทยพาณิชย์ มีรูปแบบ
4.4.3.1 Direct Credit (DCP)
4.4.3.2 Smart Credit (MCL)
4.4.3.3 SCBL Baht Net (BNT)