Nomophobia โรคติดมือถือ โรคยอดฮิตของยุคดิจิทัล ... สำรวจตัวเองก่อนเกิดโรคทางกาย

“no mobile phone phobia” 

         ในยุคที่มือถือ มีผลในการดำรงชีวิตในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร การสืบค้นข้อมูล ที่สามารถทำได้สะดวกสบาย รวดเร็ว แต่แม้ประโยชน์จะมากแค่ไหน โทษของการใช้มือถือ ก็มีเช่นกัน

          Nomophobia (โนโมโฟเบีย) คือ อาการขาดมือถือไม่ได้ วิตกกังวลเมื่ออยู่ห่างจากมือถือ เหมือนขาดอะไรสักอย่าง จัดเป็นจิตเวชแบบอ่อนๆประเภทหนึ่ง ที่ไม่ได้ถึงขั้นต้องไปพบจิตแพทย์ แต่ก็ส่งผล แล้วติดมือถือขนาดไหนที่นับว่าเป็น Nomophobia วันนี้น้องบีพลัสจะพามาสำรวจตัวเองก่อนเกิดโรคทางกายกัน

  • ถ้าไม่มีมือถืออยู่กับตัวจะ รู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวาย
  • หมกมุ่นกับการอัพเดทข้อมูลในมือถือ แม้ไม่มีเรื่องด่วนก็หยิบขึ้นมาดูอยู่ตลอดเวลา
  • หยุดทุกอย่างที่กำลังทำ เพื่อมาดูมือถือ ถ้ามีเสียงเตือนหรือสัญญาณเตือน
  • การหยิบมือถือเป็นอย่างแรกที่ทำหลังจากตื่นนอน และต้องเล่นมือถือก่อนเข้านอนตลอด
  • เล่นมือถือตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมอื่น ในชีวิตประจำวน ไม่ว่าจะเป็นข้าวห้องน้ำ ทานข้าว รอคิว 
  • แม้จะเก็บมือถือไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่ก็ยังมีความกังวลว่ามือถือจะหาย
  • ไม่เคยปิดมือถือเลย
  • พูดคุยกับเพื่อนออนไลน์มากกว่าคุยกับเพื่อนที่อยู่ตรงหน้าเวลานัดเจอกัน
  • ตั้งใจลองงดเล่นมือถือ 1 ชั่วโมง แต่ทำไม่ได้

 

Nomophobia ส่งผลเสียกับร่างกาย จนก่อให้เกิโรคทางกายได้อย่างไรบ้าง 

 นิ้วล็อก

อาการปวดชาตามนิ้ว และข้อมือ เส้นเอ็นข้อมืออักเสบ ลองกำมือแล้วเหยีบดขึ้นไม่ค่อยได้ เกิดจากการที่เล่นมือถือเป็นเวลานานๆ ใช้นิ้วจิ้มหน้าจอ

 

เสี่ยงวุ้นในตาเสื่อม

เพ่งหน้าจอเป็นเวลานาน หรือเล่นมือถือในที่ที่แสงน้อย ทำให้เกิดอาการตาล้า ตาแก้ง นำไปสู่การเกิดโรคจอประสาทตาและวุ้นในตาเสื่อมได้ อาจนำไปสู่อาการตาบอดได้ในอนาคต

 

ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่

เมื่อจดจ่ออยู่กับมือถือเป็นเวลานาน ทำให้ก้มหน้า ค่อมตัวลงโดยไม่ตั้งตัว เป็นสาเหตุให้คอ บ่า ไหล่ เกิดอาการเกร็งอย่างต่อเนื่อง เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ควรเปลี่ยนพฤติกรรม หมั่นเปลี่ยนท่านั่ง หรือวางมือถือลงบ้าง ยืดเส้นยืดสาย

 

หมอนรองกระดูกเสื่อม

อาการหมอนรองกระดูกเสื่อมเป็นอาการที่ต่อเนื่องมาจากการปวดเมื่อย คอ บ่า ไหล่ หากปล่อยไว้จนมาถึงขั้นนี้แล้ว อาจจะต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด

 

โรคอ้วน

เป็นโรคที่มาจากผลกระทบทางอ้อม เพราะหากมัวแต่เล่นมือถือ ไม่ลุกไปออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอย่างอื่น ทำให้การเผาผลาญพลังงานก็น้อยลง ก็อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมัน และหากเล่นไปกินขนมไปแล้ว จะกลายเป็นโรคอ้วนได้ง่ายๆ

 

ที่มา JobsDB