Burnout Syndrome หรือภาวะหมดไฟในการทำงาน เป็นภาวะที่เกิดจากความเครียดและความกดดันในงานที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน จนทำให้บุคคลรู้สึกหมดแรง ไม่มีพลังงาน และขาดความสนใจในการทำงาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ
- ความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจ รู้สึกอ่อนล้า ไม่มีพลังงานในการทำงาน หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ
- ขาดแรงจูงใจ ขาดความสนใจและความกระตือรือร้นในการทำงาน รู้สึกว่าการทำงานเป็นภาระ
- อารมณ์เปลี่ยนแปลง รู้สึกหงุดหงิด ง่ายต่อการโกรธ หรือมีอารมณ์แปรปรวน
- ปัญหาสุขภาพ อาจมีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ปวดหัว ปวดหลัง หรือปัญหาการนอนหลับ
- ประสิทธิภาพการทำงานลดลง การทำงานอาจมีประสิทธิภาพลดลง มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หรือขาดความคิดสร้างสรรค์
การจัดการกับภาวะหมดไฟในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณกลับมามีแรงบันดาลใจและพลังงานในการทำงานอีกครั้ง น้องบีพลัสจะพามาดู 5 วิธีจัดการภาวะหมดไฟ วิธีเหล่านี้จะช่วยลดความเครียดและฟื้นฟูพลังงานในการทำงาน ทำให้คุณสามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
1. นอนหลับพักผ่อนให้เป็นเวลา อย่าเสียเวลาไปกับความกังวลในเรื่องงาน จัดตารางเวลาการนอนหลับให้เพียงพอและตรงเวลาในแต่ละวัน หลีกเลี่ยงการเสียเวลากับความกังวลเรื่องงานก่อนนอน พยายามผ่อนคลายและทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบก่อนนอน
2. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ กินอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้รับการบำรุงและชุ่มชื่น
3. ลดความเครียดลง หากิจกรรมทำนอกเวลา ฟังเพลง ดูหนัง ออกกำลังกาย เป็นไปได้ลาพักร้อนเป็นระยะเวลาสั่นๆ หาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบนอกเวลางาน เช่น ฟังเพลง ดูหนัง หรือออกกำลังกาย ลาพักร้อนเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อผ่อนคลายและฟื้นฟูพลังงาน
4. ปรับทัศนคติในการทำงาน ทำความเข้าใจในเนื้องาน และองค์กรที่ทำงานด้วย ทำความเข้าใจในเนื้องานและวัตถุประสงค์ของงานที่ทำอยู่ ปรับเปลี่ยนมุมมองให้มองเห็นความสำคัญและคุณค่าของงาน รวมถึงการทำงานร่วมกับองค์กร
5. เปิดใจให้กับคนรอบข้าง อย่าลังเลที่จะปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างาน หลีกเลี่ยงคนที่มีความคิดในแง่ลบ อย่าลังเลที่จะพูดคุยและปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานเกี่ยวกับความเครียดและความกังวลที่เกิดขึ้น หลีกเลี่ยงคนที่มีทัศนคติในแง่ลบและพยายามมีสังคมที่สนับสนุนและเข้าใจ
ที่มา โรงพยาบาลเปาโล