3 วิธีทำ Job crafting เปลี่ยนงานที่หมดไฟเป็นงานที่มีคุณค่า

          จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลายตำแหน่งมีบทบาทที่เปลี่ยนไปมาก หากคุณยังคงทำตาม Job Description ที่เคยเขียนไว้ คุณจะกลายเป็นคนล้าสมัยทันที รวมถึงจะทำให้คุณรู้สึกเบื่อและไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน

           Job crafting เป็นการเริ่มปรับบทบาทหน้าที่ปัจจุบันให้เป็นตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือทักษะที่ช่วยให้คุณกำหนด สร้าง รวมถึงให้คำนิยามงานของคุณใหม่ ที่จะทำให้คุณรู้สึกมีพลังและมีความหมาย คุณสามารถเริ่มฝึกวันละนิด และใช้มันไปตลอดชีวิตการทำงานของคุณได้

 

1. กระบวนการ การนำจุดแข็งมาใช้กับงานให้มากขึ้น

            ถ้าคุณเคยพยายามทำงานที่ไม่ชอบต่อไปเรื่อยๆ คุณจะรู้ว่าการหมดไฟในการทำงานและความผิดหวังเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นคุณควรปรับเปลี่ยนรูปแบบงานให้ตรงกับจุดแข็งมากกว่าการทำงานที่คุณไม่ชอบเพื่อเงินเดือนต่อไป

           สิ่งที่คุณสามารถทำได้คือ นำงานใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นเข้ามาในงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรือใหญ่ก็ตาม คิดซะว่ามันเป็นการสร้างรางวัลที่ไม่ใช่ตัวเงินให้กับตัวเอง สิ่งนี้จะทำให้คุณอยากตื่นเช้าไปทำงานมากยิ่งขึ้น

 

2. เพื่อนร่วมงาน การพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานให้มีแรงบันดาลใจมากขึ้น

          เมื่อพูดถึงเพื่อนร่วมงาน หลายคนอาจนึกถึงเพื่อนร่วมงานที่ทำให้หมดกำลังใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ลืมไปคือ คุณสามารถเลือกคนที่จะอยู่รอบๆ ตัวคุณได้  ถ้าคุณรู้สึกไม่มีทางเลือกในแง่ของคนที่คุณทำงานด้วย คุณก็ยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพได้ โดยการเลือกเพื่อนร่วมงานสองคนที่คุณมีปฏิสัมพันธ์ด้วยบ่อยๆ และเขียนอีเมลถึงเขาโดยเล่าถึงความสำเร็จที่พวกคุณมีร่วมกัน ยิ่งเล่าละเอียดมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีความผูกพันมากขึ้นเท่านั้น คนเหล่านั้นจะซาบซึ้งในความพยายาม และความสัมพันธ์ก็จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นได้

 

3. เป้าหมาย การเล่าเรื่องให้ตัวเองฟังให้มีแรงบันดาลใจมากขึ้น

          บางคนรอเจ้านายเพื่อให้ตัวเองมีเป้าหมาย แต่การจุดไฟให้ตัวเองมีเป้าหมายไม่ใช่แค่การฟังคำพูดที่สูงส่งหรือวัตถุประสงค์ขององค์กร สุดท้ายแล้วเป้าหมายก็คือการทำความเข้าใจผลกระทบที่มีต่อผู้อื่น และพัฒนาเรื่องราวเกี่ยวกับสาเหตุว่าทำไมคุณถึงทำสิ่งนี้ ซึ่งหมายความว่าเป้าหมายคือเรื่องราวที่คุณบอกตัวเองเป็นหลัก คุณสามารถสร้างเรื่องราวนั้นขึ้นมาได้ รวมถึงสามารถพัฒนาคำอธิบายสาเหตุที่ขับเคลื่อนพฤติกรรมตัวเองได้

          จำไว้ว่าการเปลี่ยนจากกรอบความคิดในงานแบบเดิมๆ ไปสู่กรอบความคิดใหม่ๆ ไม่สามารถเปลี่ยนได้เลยในครั้งเดียว คุณยังต้องช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมาย ยังต้องทำงานตามคำสั่งเพื่อเงิน แต่งานของคุณจะมีความหมายมากขึ้น และนายจ้างของคุณก็จะได้รับประโยชน์จากคุณมากขึ้นด้วย

 

 

ที่มา techsauce