ในยุคปัจจุบัน คนรุ่นใหม่หลายคนที่เริ่มต้นจากการเป็นฟรีแลนซ์ ไม่ว่าจะเป็น ไรเดอร์ บล็อกเกอร์ ยูทูเบอร์ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ นักบัญชีฟรีแลนซ์ และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถต่อยอดความถนัดของตนเองให้กลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ แต่การเป็นฟรีแลนซ์ก็มีความเสี่ยงกว่าการเป็นพนักงานประจำ เพราะรายได้ที่เข้ามาในแต่ละเดือนนั้นมีความไม่แน่นอน และยังไม่มีสวัสดิการต่างๆ ที่บริษัทจัดหาให้ จึงยิ่งต้องใส่ใจกับการวางแผนการเงินให้มากๆ เพื่อแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาลและลดค่าใช้จ่ายในยามเกษียณ หากยังไม่มีสวัสดิการจากรัฐ ก็สามารถขอรับสิทธิจากประกันสังคมได้
น้องบีพลัสจะพามาดูเงื่อนไขในการสมัครรับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ประกันสังคมมาตรา 40 เบื้องต้นค่ะ
คุณสมบัติของผู้สมัครประกันสังคมมาตรา 40
- เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ หรือแรงงานนอกระบบ
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์
- ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39
- ไม่เป็นข้าราชการหรืออาชีพที่ยกเว้นตามสิทธิประกันสังคม
- บุคคลพิการที่ไม่อาจรับรู้สิทธิที่พึงได้รับจากการเป็นผู้ประกันตน
สิทธิประโยชน์ มีทางเลือกทั้งหมด 3 ทางเลือก
ทางเลือกที่ 1
จ่ายเงินสมทบ 100 บาทต่อเดือน นับเป็นเงินของผู้ประกันตน 70 บาท และเป็นเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 30 บาท
1. กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย
2. กรณีทุพพลภาพ
ได้รับเงินชดเชยรายได้ 500-1,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี โดยจำนวนเงินที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจ่ายเงินสมทบที่ผ่านมา
3. กรณีเสียชีวิต
ทางเลือกที่ 2
เลือกจ่ายเงินสมทบ 150 บาทต่อเดือน คิดเป็นเงินของผู้ประกันตน 100 บาท และเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 50 บาท
1. กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และเสียชีวิต
จะได้รับความคุ้มครอง เหมือนกับการสมัครมาตรา40 ของประกันสังคม ทางเลือกที่ 1 ทั้งหมด
2. กรณีชราภาพ
-
เป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากทางเลือกที่ 1
-
ได้รับเงินบำเหน็จเป็นก้อนพร้อมผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินสมทบที่จ่ายไป
-
หากต้องการรับเงินก้อนตอนเกษียณที่มากขึ้น สามารถทำได้โดยการจ่ายเงินสมทบให้มากขึ้น แต่ต้องไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท
ทางเลือกที่ 3
ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกจ่ายเงินสมทบสูงที่สุด คือการจ่ายเงินสมทบ 450 บาทต่อเดือน คิดเป็นเงินของผู้ประกันตน 300 บาท และเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 150 บาท
1. กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย
2. กรณีทุพพลภาพ
ได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนกับทางเลือกที่ 1 และ 2 และได้รับเงินทดแทนตลอดชีวิต
3. กรณีเสียชีวิต
ได้รับเงินค่าทำศพ 40,000 บาท
4. กรณีชราภาพ
ได้รับผลตอบแทนเป็นเงินก้อนพร้อมดอกเบี้ย แต่ถ้าหากมีการจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินเพิ่มอีก 10,000 บาท
5. กรณีสงเคราะห์บุตร
กรณีนี้มีเฉพาะทางเลือกที่ 3 เท่านั้น โดยผู้ประกันตนจะได้รับเงิน 200 บาท/เดือน/บุตร 1 คน คราวละไม่เกิน 2 คน สามารถรับสิทธิได้ตั้งแต่บุตรแรกเกิดถึงอายุ 6 ปี
ที่มา สำนักงานประกันสังคม