สำหรับใครที่กำลังมีแผนเริ่มต้นอยากเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้า และกำลังวางแผนผลิตสินค้าแบรนด์ของตัวเองอยู่ ทั้งครีม เครื่องสำอาง อาหารเสริม แน่นอนว่าคงอาจจะเคยได้ยินกับคำว่า OEM , ODM กันมาบ้างและนอกจากทั้ง 2 รูปแบบข้างต้นแล้ว ยังมี OBM อีกด้วย วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักทั้ง 3 แบบกัน
OEM คืออะไร
OEM คือ ผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้กับบริษัทที่จะไปขายในแบรนด์ของตัวเอง โดย OEM ย่อมาจากคำว่า Original Equipment Manufacturer ซึ่งลักษณะของ OEM นั้นจะตอบสนองลูกค้าที่มีแบรนด์เป็นของตนเองแล้ว แต่ไม่มีเครื่องจักรหรือโรงงานเป็นของตัวเอง ฉะนั้น OEM จึงมีบทบาทเป็นผู้ผลิตสินค้า โดยเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการผลิตจนกระทั่งได้สินค้าออกมาพร้อมใช้งาน ขาดเพียงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้ที่ลูกค้าต้องจัดหามาเอง ซึ่งถ้าคุณโชคดีเจอโรงงานรับผลิตสินค้าสปาแบบครบวงจรแล้ว ทางโรงงานจะมีบริการจดแจ้งทะเบียน อย.ให้อีกด้วย
ข้อดีและข้อเสียของการเลือกโรงงานประเภทนี้
ข้อดี
-
ช่วยลดต้นทุนการผลิตต่ำ สามารถย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่ต้นทุนต่ำกว่าได้ตลอด
-
เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง ง่ายต่อการเปลี่ยนลักษณะหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ
-
มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิตคอยดูแล
ข้อเสีย
ODM คืออะไร
ODM คือ ผู้รับจ้างที่ออกแบบและผลิตสินค้าให้กับบริษัทที่จะไปขายในแบรนด์ของตัวเอง โดย ODM ย่อมาจากคำว่า Original Design Manufacturer ซึ่งลักษณะของ ODM นั้นจะตอบสนองลูกค้าคล้ายกับ OEM นั่นก็คือรับผลิตสินค้า แต่ก็มีความต่างที่นอกจากรับผลิตแล้วยังรับออกแบบสินค้าด้วย ไม่ว่าจะเป็นโลโก้สินค้า ฉลาก บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ โดยลูกค้ามีหน้าที่เพียงศึกษาการตลาดและดำเนินการขายด้วยตนเองเท่านั้น
ข้อดีและข้อเสียของการเลือกโรงงานประเภทนี้
ข้อดี
-
ไม่ต้องออกแบบเอง สามารถขายได้เลย เหมาะกับ ผู้เริ่มต้นทำแบรนด์
-
หากเลือกออกแบบที่เป็น Exclusive ก็จะได้แบรนด์สินค้าที่ไม่ซ้ำใคร
-
ช่วยลดต้นทุนการผลิตต่ำ สามารถย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่ต้นทุนต่ำกว่าได้ตลอด
-
เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องมีโรงงานเป็นของตัวเอง
-
มีผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาทางการผลิต และการออกแบบคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ข้อเสีย
OBM คืออะไร
OBM หรือ Original Brand Manufacturer คือ การผลิตภายใต้รูปแบบและตราสินค้าของตนเอง เหมาะกับแบรนด์ที่มีความมั่นคง และเป็นโรงงานที่พัฒนาได้เต็มที่ เพื่อผลิตสินค้าและจำหน่ายในปริมาณที่มาก โดยมุ่งเน้น ผลิตแต่สินค้าที่อยู่ภายใต้แบรนด์ของตัวเองแต่เพียงเท่านั้นดังนั้นหากแยบรนด์ของของแข็งแรงมากพอ และต้องการกำลังผลิตจำนวนมาก การเลือกสร้างโรงงานเองก็จะสามารถ ลดต้นทุนในการผลิตไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
ข้อดีและข้อเสียของการเลือกโรงงานประเภทนี้
ข้อดี
-
มีโรงงานเป็นของตนเอง สามารถผลิตได้ในจำนวนมาก ๆ
-
ช่ววยลดต้นทุนในการผลิตไปได้มาก
-
สามารถปรับกลยุทธ์ในการผลิต เื่อไหรก็ได้
ข้อเสีย
ความแตกต่างของ OEM และ ODM
1. 0EM เป็นการทำงานผลิตของโรงงนที่รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ตามสูตรการผลิตของลูกค้าเพื่อให้ลูกค้านำไปติดแบรนด์ที่ติดตลาดอยู่แล้วของตัวเอง ส่วน ODM เป็นโรงงานที่มีรูปแบบการ
ผลิตที่มีการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อนำเสนอแก่ลูกค้า
2. 0EM เป็นการทำงานผลิตแบบรับจ้าง ไม่ต้องมีความเสี่ยง เพราะเป็นการรับจ้างผลิต ส่วน 0DM แม้จะต้องรับความเสี่ยงและลงทุนเพิ่มขึ้นอยู่บ้าง เพราะต้องทดลองและทดสอบผลิตภัณฑ์
แต่ก็นับเป็นความก้าวหน้าของธุรกิจ
ที่มา www.ilc-cosmetic.com
oem.thaimedicos.com
www.revomed.co.th