ปรับฮวงจุ้ยร้านค้า จัดร้านยังไงให้เงินไหลมาเทมา!

ฮวงจุ้ย เป็นศาสตร์ความรู้แขนงหนึ่งของจีน มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี  เป็นการศึกษาสภาพแวดล้อม ว่าด้วยเรื่องชัยภูมิ ทิศทางลม กระแสพลังงาน น้ำ อากาศ ฯลฯ แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อทำการจัดวางฮวงจุ้ยให้เหมาะสม เพื่อเสริมพลังให้กับบ้าน ที่ทำงาน หรือร้านค้า ซึ่งเชื่อกันว่า หากจัดบ้าน จัดโต๊ะทำงาน หรือจัดร้านขายของตามหลักการของฮวงจุ้ยแล้ว จะนำมาซึ่งความสุข ความมั่งคั่ง และความเจริญในหน้าที่การงาน วันนี้ เรามาดูหลักฮวงจุ้ยสำหรับจัดร้านขายของให้เงินทองไหลมาเทมา ใครกำลังจะเปิดร้านใหม่หรืออยากจะจัดตกแต่งร้านใหม่ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด! 

เปิดร้านใหม่ ต้องมองหาทำเลทอง

ก่อนจะพูดถึงทำเลทองสำหรับการตั้งร้านขายของ ไปดูทำเลอับโชคที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ทำเลที่เป็นมุมอับและคับแคบ, ทาง 3 แพร่ง, ทางโค้งหรือหัวมุมถนน, ทางตัน, ท้ายซอย, ใต้สะพาน, สันเขา หน้าผา หรือบริเวณตีนภูเขา ทำเลเหล่านี้ตามหลักการของฮวงจุ้ยกล่าวไว้ว่าเป็นทำเลอับโชค ไม่เป็นมงคล นอกจากนั้นยังเป็นทำเลเสี่ยงอันตราย ที่ไม่เหมาะกับการสัญจรไปมาของลูกค้าอีกด้วย

ส่วนลักษณะทำเลทอง จะต้องอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ไม่โดดเดี่ยว และพลุกพล่านไปด้วยผู้คน ซึ่งถือเป็นทำเลทองที่ใครๆ ก็ตามหา แต่หากอยากได้ทำเลทองตามหลักฮวงจุ้ย นอกจากจะต้องอยู่ในแหล่งชุมชนและมีคนพลุกพล่านแล้ว ยังต้องดูกระแสการไหลเวียนของผู้คนในบริเวณนั้นอีกด้วย

กระแสการไหลเวียนของผู้คน สังเกตง่ายๆ จากสถานที่สำคัญที่ดึงดูดผู้คนให้เดินไปยังสถานที่นั้นๆ เช่น หมู่บ้าน โรงเรียน ธนาคาร ตลาดสด ฯลฯ ถ้าคุณสามารถตั้งร้านของคุณในบริเวณที่เป็นทางผ่านของสถานที่สำคัญเหล่านั้นได้ มีกระแสของคนเดินผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา จะถือว่าคุณได้ตั้งร้านในทำเลทองตามหลักของฮวงจุ้ย แต่ถ้าคุณเลือกถนนผิดฝั่ง แม้จะเป็นทำเลทองในย่านชุมชน แต่ไม่มีกระแสของคนเดินผ่านเลย ก็ถือว่าเป็นทำเลทองเก๊ตามหลักของฮวงจุ้ยนั่นเอง

หันหน้าร้านให้ถูกทิศ ช่วยให้ค้าขายดี ไม่มีอุปสรรค

เมื่อเลือกทำเลการตั้งร้านได้แล้ว อีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ คือ หน้าร้าน นอกจากการออกแบบหน้าร้านให้ดึงดูดลูกค้าแล้ว หน้าร้านควรหันไปในทิศทางที่เหมาะสมและเป็นมงคล ทิศที่เป็นมงคลตามหลักฮวงจุ้ย คือ ทิศใต้ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเชื่อว่าหากหันหน้าร้านไปทางทิศเหล่านี้จะทำให้ค้าขายดี ไม่มีอุปสรรค แต่นอกจากหลักฮวงจุ้ยแล้วก็ควรเลือกทิศทางของหน้าร้านที่มีการถ่ายเทพลังงาน ให้กระแสลมหรืออากาศสามารถไหลเวียนได้สะดวก และมีแสงสว่างเพียงพอในตอนกลางวัน จะช่วยให้ร้านของคุณมีอุณภูมิพอเหมาะและยังช่วยประหยัดไฟไปในตัว

เกร็ดเล็กๆ จากศาสตร์ฮวงจุ้ย คือ หน้าร้านไม่ควรมีเสาไฟฟ้ามาบดบัง และไม่ควรมีท่อระบายน้ำ เพราะเชื่อว่าโชคลาภและเงินทองที่เข้ามาจะไหลลงท่อระบายน้ำไปนั่นเอง

ประตูเข้าออกควรมีแค่ทางเดียว

ตามหลักของฮวงจุ้ยร้านค้า ประตูทางเข้าออกควรมีขนาดใหญ่ และควรเป็นแบบบานเลื่อนหรือเปิดเข้าข้างใน ที่สำคัญคือควรมีประตูเข้าออกเพียงบานเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการดูแล และมองเห็นทุกคนที่เดินเข้าออกจากร้าน แต่ถ้าร้านของคุณจำเป็นต้องมีประตูหลายบาน ควรทำประตูทางออกให้เล็กกว่าประตูทางเข้า เพราะเชื่อว่าจะทำให้เงินทองไหลเข้ามากกว่าไหลออกจากร้านนั่นเอง

จัดร้านใหม่ให้พร้อมรับทรัพย์ ควรวางโต๊ะคิดเงินในตำแหน่ง มังกร

ตำแหน่งการตั้งโต๊ะคิดเงินที่ดีไม่ควรหันหลังให้ประตูทางเข้า และควรอยู่ในตำแหน่งที่พนักงานสามารถมองเห็นประตูหน้าร้านและคนที่เดินเข้าออกจากร้านได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าว่ากันตามหลักฮวงจุ้ยตำแหน่งการตั้งโต๊ะคิดเงินที่ดีที่สุด คือตำแหน่งที่เรียกว่า มังกร หรือทางด้านขวาของร้าน (เมื่อมองจากประตูหน้าร้านเข้ามา) อีกทั้งแวดล้อมบริเวณโต๊ะคิดเงิน ทางด้านหลังโต๊ะควรเป็นผนังทึบ เพื่อเสริมเรื่องความมั่นคง ส่วนบริเวณที่ควรหลีกเลี่ยงการตั้งโต๊ะคิดเงิน คือ ใต้บันได ใต้คาน ใต้เครื่องปรับอากาศ และไม่ควรตั้งชิดกับผนังห้องน้ำหรือห้องครัว เพราะเชื่อว่าบริเวณเหล่านี้จะสร้างความกดดันให้พนักงานและเป็นมุมที่ถือว่าอับโชค

จัดชั้นวางสินค้าให้ถูกหลักฮวงจุ้ย ช่วยเพิ่มยอดขายได้

ชั้นวางสินค้าส่วนสำคัญของร้านขายของ ศาสตร์ของฮวงจุ้ยยังเชื่อว่า การจัดชั้นวางสินค้าให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านได้อีกด้วย

หลักของฮวงจุ้ยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนจะเหมาะสมกับการจัดวางสินค้าต่างชนิดกัน ได้แก่

  • ส่วนที่ 1 : ตำแหน่งมังกรเขียว 

ถือเป็นจุดที่มีการไหลเวียนของพลังงานมากที่สุดในร้าน การจับจ่ายใช้สอยจะเกิดขึ้นในบริเวณนี้มากเป็นพิเศษ จึงเหมาะกับการวางสินค้าขายดี, สินค้าแนะนำ หรือสินค้าที่เราต้องจะขาย เช่น สินค้าใหม่และสินค้าตามเทศกาล

  • ส่วนที่ 2 : ตำแหน่งเสือขาว 

ในบริเวณนี้มีกระแสการไหลเวียนของพลังงานค่อนข้างนิ่ง เหมาะสำหรับการวางสินค้าที่ขายได้น้อย หรือสินค้าที่ตกเทรนด์ไปแล้ว

  • ส่วนที่ 3 : ตำแหน่งหงส์แดง 

เป็นตำแหน่งที่มีกระแสพลังงานดี ผู้คนมองเห็นได้ง่าย ควรวางสินค้าประจำร้านหรือสินค้าที่โดดเด่นของร้าน มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของลูกค้าอยู่แล้ว

  • ส่วนที่ 4 : ตำแหน่งเต่าดำ 

ด้วยความที่อยู่ด้านในสุดของร้าน จึงเหมาะกับการวางสินค้าชิ้นใหญ่หรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก รวมถึงสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าหลักของร้าน

อีกเทคนิคหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักนำมาใช้ในการจัดชั้นวางสินค้าภายในร้าน คือ เทคนิคการจัดร้านแบบเลข 8 เป็นการจัดชั้นวางสินค้าให้ลูกค้าเดินดูได้โดยรอบและซ้ำไปซ้ำมา คล้ายกับดักเขาวงกตที่เข้ามาแล้วหาทางออกไม่เจอนั่นเอง

เสริมความเฮงให้กับร้านด้วยเครื่องรางนำโชค

เมื่อพูดถึงฮวงจุ้ย สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ เหล่าเครื่องรางนำโชค ซึ่งการนำเครื่องรางมงคลมาจัดวางไว้ภายในร้านจะขึ้นอยู่กับความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละคน สำหรับเครื่องรางมงคลที่นิยมนำมาเสริมความเฮงให้กับร้านค้าและกิจการ มีดังนี้ 

  • พระสังกัจจายน์ ตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์และโชคลาภ
  • ปี่เซียะ มีพลังเรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมาและป้องกันสิ่งชั่วร้าย
  • นางกวัก / แมวกวัก ช่วยกวักเงินกวักทอง กวักเรียกลูกค้าให้หลั่งไหลเข้าร้าน 
  • โต๊ะหมู่บูชา เสริมความเป็นสิริมงคล ควรจัดให้พระพุทธรูปอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุด

เครื่องรางอีกหนึ่งชิ้นที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง หินนำโชค ที่แต่ละสีแต่ละแบบจะช่วยส่งเสริมในด้านที่แตกต่างกันออกไป ลองเลือกมาใช้ให้เหมาะสมกับตัวคุณ

ทั้งนี้ทั้งนั้น การมีเครื่องรางมากเกินไป อาจส่งผลให้พลังหยินและหยางภายในร้านไม่สมดุลกัน จึงควรเลือกมาแต่พอดี หมั่นดูแลทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และควรวางเครื่องรางให้หันหน้าออกไปทางหน้าร้าน ไม่ควรวางไว้เหนือประตูทางเข้าออก ใต้คาน หรือพิงผนังห้องน้ำ เพราะเชื่อว่าจะทำให้เครื่องรางนั้นขาดพลัง

ปลูกต้นไม้ เสริมสิริมงคล และเรียกทรัพย์เข้าร้าน

นอกจากเครื่องราง อีกหนึ่งอย่างที่นิยมนำมาเสริมทรัพย์ เรียกโชค และสร้างสิริมงคลให้กับร้านค้า ก็คือ ต้นไม้ ไปดูกันดีกว่าค่ะว่า ต้นไม้ที่เหมาะจะปลูกในร้านหรือเหมาะกับผู้ที่อาชีพค้าขายนั้นมีอะไรบ้าง

  • ต้นสาลิกาลิ้นทอง : เหมาะกับปลูกในร้านค้าเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล การค้าขายจะเจริญรุ่งเรือง ขายดีมีกำไร ช่วยให้การเจรจาทางการค้าเป็นไปอย่างราบรื่น และช่วยให้การลงทุนผลิดอกออกผล 
  • ต้นกวักมรกต : การปลูกต้นกวักมรกตจะช่วยเสริมด้านโชคลาภ นำมาซึ่งความร่ำรวย สามารถเรียกเงินเรียกทรัพย์ได้ และมีเงินทองเหลือเก็บ
  • ต้นเศรษฐีมีทรัพย์ / ต้นเศรษฐีรวยทรัพย์ : ไม้มงคลที่ช่วยให้ร่ำรวยเงินทอง การค้าขายเจริญรุ่งเรือง เสริมเรื่องอำนาจวาสนาและบุญบารมี และทำให้ผู้ปลูกเป็นที่ยอมรับในสังคม
  • ต้นชัยพฤกษ์ : ชัย-ยะ หมายถึง ชัยชนะ จึงว่ากันว่าการปลูกต้นชัยพฤกษ์จะทำให้สามารถเอาชนะคู่แข่งได้นั่นเอง
  • ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูณ) : เป็นไม้มงคลที่ช่วยเสริมเรื่องความอุดมสมบูรณ์  ปลูกเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในการเปิดร้านหรือเริ่มต้นกิจการใหม่ จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเจริญเติบโตก้าวหน้า
  • ต้นสับปะรดสี : ช่วยเสริมดวงเรื่องความสัมพันธ์ทางการค้า ช่วยให้การลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เป็นไปอย่างที่ใจต้องการ
  • ต้นโป๊ยเซียน : หนามของต้นโป๊ยเซียนมีความหมายถึงความฉลาดหลักแหลม และเชื่อกันว่าต้นโป๊ยเซียนจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล หากต้นโป๊ยเซียนออกดอก เชื่อกันว่าจะทำให้การค้าขายดี มีลูกค้าให้การสนับสนุน คนที่กำลังวางแผนลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ดี และจะได้ลาภก้อนโต

 

และทั้งหมดนี้คือหลักฮวงจุ้ยสำหรับจัดร้านค้า เพื่อนๆลองนำไปปรับใช้ให้เข้ากับความศรัทธาและความเชื่อของตัวเองดูนะคะ แต่ถึงอย่างไรการที่กิจการของคุณจะไปได้สวยหรือประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่าง อย่าลืมดูแลลูกค้า หมั่นพัฒนาธุรกิจให้ดี ให้ทันสมัยอยู่เสมอ และจัดร้านโดยใช้หลักฮวงจุ้ยเข้ามาเสริมด้วย รับรองว่าร้านของคุณจะมีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายเลยล่ะ

 

ที่มา www.officemate.co.th