Positive Change ในบริบทขององค์กรและ HR หมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลให้เกิดการพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพ ความพึงพอใจ และสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงาน การสร้าง Positive Change คือการนำพาองค์กรไปสู่การพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้นผ่านการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน การจัดการคน และการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ
ชาว HR ยุคดิจิทัล มีอะไรที่ควรปรับเปลี่ยน หรือมีอะไรที่ควร Take Action เพื่อผลักดันองค์กรสู่ Positive Change เพราะHR ที่ทันสมัยควรเปิดรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อผลักดันองค์กรให้เติบโตและเปลี่ยนแปลงในทางบวก
1. การทำ Recruitment จาก Degree เราจะเน้นไปที่ Skill
เปลี่ยนโฟกัสจากการพิจารณาปริญญาหรือวุฒิการศึกษา มาเน้นที่ทักษะที่พนักงานมีจริง โดยการใช้เครื่องมือเช่น Skills Assessment Tools หรือ Skill-Based Hiring Platforms เพื่อประเมินทักษะของผู้สมัครงานให้เหมาะสมกับความต้องการของงานมากขึ้น ช่วยให้ได้คนที่ตรงกับความสามารถที่จำเป็นจริง ๆ
2. ต้องให้ความสำคัญกับ Employee Value Proposition หรือสิ่งที่องค์กรส่งมอบให้พนักงาน
ให้ความสำคัญกับสิ่งที่องค์กรส่งมอบให้พนักงาน (ทั้งสิ่งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้) เช่น ค่าตอบแทน โอกาสการพัฒนาอาชีพ สภาพแวดล้อมที่ดี และความยืดหยุ่นในการทำงาน เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพสูงไว้ การออกแบบ EVP ที่แข็งแกร่งจะสร้างความผูกพันที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กร
3. การทำเรื่องของ Data-Driven HR หรือ People Analytics
ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจและกำหนดกลยุทธ์ด้าน HR ด้วยการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลพนักงาน เช่น ประสิทธิภาพการทำงาน ความพึงพอใจ การลาออก ฯลฯ เพื่อเข้าใจพนักงานได้ดีขึ้น และปรับปรุงกลยุทธ์การบริหารจัดการบุคลากรที่สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร
4. AI และ Technology จะมีบทบาทมากขึ้น
เทคโนโลยีและ AI มีบทบาทสำคัญในการช่วยสนับสนุน HR ในหลายด้าน เช่น การสรรหาบุคลากร (AI Recruitment Tools) การจัดการเอกสาร การให้ Feedback แบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูลพนักงาน เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และทำให้ HR สามารถโฟกัสไปที่การสร้างสรรค์กลยุทธ์เชิงลึกมากขึ้น
ที่มา orchidjobs
