ทำความรู้จักกับ HR Transformation เพื่อเปลี่ยนผ่าน HR สู่ยุคดิจิทัล ด้วยการจัดการที่ทันสมัย แม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพ และเสริมความพึงพอใจของพนักงานในทุกมิติ!

HR Transformation คือกระบวนการปรับเปลี่ยนและพัฒนาแผนกทรัพยากรบุคคล (HR) ขององค์กรเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจและแรงงานในยุคดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆ ในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อน และทำให้การจัดการบุคลากรมีความยืดหยุ่นมากขึ้น กระบวนการนี้ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กรในตลาดและส่งเสริมให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

เป้าหมายหลักของ HR Transformation

  • เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานในแผนก HR: ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลานานด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติ
  • ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ: เช่น การทำงานแบบไฮบริด ความต้องการของพนักงานที่เปลี่ยนแปลงไป หรือการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายและข้อบังคับ
  • ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร: ช่วยให้พนักงานมีความยืดหยุ่น และมีความสุขในการทำงานมากขึ้น
  • พัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงาน: เพิ่มความสามารถในการพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่องผ่านการอบรมและพัฒนา (Learning & Development)

เรื่องที่ HR ต้องรู้เกี่ยวกับ HR Transformation

1. การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในงาน HR (HR Technology)

การใช้เทคโนโลยีอย่าง e-HRM, AI, และระบบ Automation เข้ามาช่วยในการจัดการงานด้าน HR เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อทำให้การทำงานเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น:

  • ระบบ e-HRM: ช่วยในเรื่องการจัดการเงินเดือน การประเมินผล การจัดการสวัสดิการ และข้อมูลพนักงานแบบออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
  • AI: สามารถใช้ในการคัดกรองผู้สมัครงาน การทำนายการลาออกของพนักงาน หรือการวิเคราะห์พฤติกรรมการทำงาน
  • Automation: ช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน เช่น การส่งเอกสารขออนุมัติ การแจ้งเตือนวันครบกำหนดสัญญาหรือประกัน

2. การพัฒนาทักษะใหม่ของพนักงาน (Reskilling & Upskilling)

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่กระบวนการทำงานแบบดั้งเดิม การพัฒนาทักษะใหม่ๆ หรือการเพิ่มทักษะที่จำเป็นในการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญ HR ต้องจัดหาหลักสูตรอบรมที่ทันสมัย เช่น:

  • การอบรมทักษะดิจิทัลเพื่อให้พนักงานสามารถใช้งานระบบดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การพัฒนา Soft Skills เช่น ทักษะการแก้ไขปัญหา การสื่อสาร หรือการทำงานร่วมกันในทีม

3. การวิเคราะห์ข้อมูล (HR Analytics)

การวิเคราะห์ข้อมูล HR เป็นสิ่งที่ช่วยให้การตัดสินใจด้านทรัพยากรบุคคลมีความแม่นยำมากขึ้น HR ควรใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ เช่น:

  • การวิเคราะห์การหมุนเวียนของพนักงาน
  • การพิจารณาผลกระทบของการทำงานในลักษณะไฮบริดหรือทางไกลต่อประสิทธิภาพพนักงาน

4. การบริหารจัดการการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work)

การทำงานแบบผสมผสานระหว่างการทำงานในออฟฟิศและทำงานทางไกลเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากขึ้น HR ต้องวางกลยุทธ์เพื่อจัดการ:

  • การติดตามประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานที่ทำงานทางไกล
  • การจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสนับสนุนให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในและนอกออฟฟิศ

5. การส่งเสริมประสบการณ์พนักงาน (Employee Experience)

การสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดีให้กับพนักงานเป็นสิ่งที่องค์กรควรให้ความสำคัญ โดย HR ต้องจัดการสภาพแวดล้อมการทำงานและสวัสดิการที่ตอบสนองความต้องการของพนักงาน รวมถึง:

  • การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance)
  • การให้คำปรึกษาด้านอาชีพและความก้าวหน้าในสายอาชีพ

6. การจัดการวัฒนธรรมองค์กร (Corporate Culture Management)

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ HR ควรเน้นการสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการทำงานร่วมกัน และเปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงความคิดเห็น

7. การจัดการกับการเปลี่ยนแปลง (Change Management)

ในกระบวนการ HR Transformation องค์กรจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ HR จึงต้องมีความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการสื่อสารกับพนักงานเพื่อทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น

8. การบริหารจัดการทักษะผู้นำ (Leadership Development)

HR ควรเน้นการพัฒนาทักษะผู้นำที่ตอบโจทย์การบริหารองค์กรในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำที่มีความสามารถในการปรับตัวจะสามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างการนำ HR Transformation มาใช้ในองค์กร:

กรณีศึกษา: บริษัท ABC Corp.

ปัญหา: บริษัทพบปัญหาเกี่ยวกับการคำนวณเงินเดือนที่ผิดพลาดและล่าช้า พนักงานไม่ได้รับเงินเดือนตามกำหนดเนื่องจากระบบคำนวณเงินเดือนที่ล้าสมัย กระบวนการทำงานที่ซับซ้อนและต้องทำด้วยมือยังทำให้เกิดความผิดพลาดซ้ำซ้อน เช่น การคำนวณโอทีผิด หรือการหักค่าภาษีไม่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของพนักงานและสร้างปัญหาในการบริหารการเงินของบริษัท

  • การแก้ปัญหา: HR ของบริษัทตัดสินใจนำระบบ Bplus e-HRM ที่มีฟังก์ชันการจัดการเงินเดือนแบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ โดยระบบนี้สามารถคำนวณเงินเดือนตามข้อมูลเวลาการทำงานที่บันทึกอัตโนมัติ คำนวณภาษีและประกันสังคมได้อย่างแม่นยำ รวมถึงสามารถส่งข้อมูลการจ่ายเงินเดือนให้กับธนาคารได้ทันที ทำให้ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนลง นอกจากนี้ HR ยังสามารถตั้งค่าการคำนวณโบนัสและโอทีให้เป็นไปตามกฎระเบียบของบริษัทอย่างถูกต้องทุกครั้ง
  • ผลลัพธ์: ระบบใหม่ช่วยให้บริษัทสามารถคำนวณและจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานได้ตรงเวลา ลดข้อผิดพลาดในการคำนวณเงินเดือนลงได้ถึง 90% พนักงานพึงพอใจกับการจ่ายเงินเดือนที่แม่นยำและทันเวลา ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานดีขึ้น และ HR สามารถใช้เวลาในการจัดการด้านอื่นๆ ที่สำคัญมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาทำงานซ้ำซ้อนกับการคำนวณเงินเดือนที่ต้องทำด้วยมืออีกต่อไป

ประเด็นที่ HR ต้องรู้จากกรณีนี้:

1. การใช้เทคโนโลยี HRM ในการคำนวณเงินเดือนอัตโนมัติ: การใช้ระบบ Bplus e-HRM ช่วยลดความผิดพลาดและความล่าช้าในการจ่ายเงินเดือน ระบบสามารถคำนวณภาษี, โอที, และค่าประกันสังคมได้แม่นยำ โดยไม่ต้องอาศัยการคำนวณด้วยมือที่เสี่ยงต่อความผิดพลาด

2. การปรับปรุงกระบวนการจ่ายเงินเดือนให้ทันสมัย: ระบบอัตโนมัติช่วยลดขั้นตอนซับซ้อน ทำให้ HR มีเวลาทำงานในด้านการพัฒนาพนักงานมากขึ้น

3. การเพิ่มความพึงพอใจของพนักงาน: การจ่ายเงินเดือนตรงเวลาและถูกต้องจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจในองค์กร

HR Transformation เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ HR สามารถตอบสนองต่อความต้องการใหม่ๆ ขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีและวิธีการจัดการที่ทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ขององค์กร

 

อ้างอิง : บทความนี้เขียนขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากเทคโนโลยี AI