การใช้ Color Therapy ในสถานที่ทำงานสามารถช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ช่วยให้พนักงานมีสมาธิและจดจ่อกับงานได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยให้สมองได้พักผ่อนและส่งเสริมความมีสติ การนำ Color Therapy มาใช้ในองค์กรจึงเป็นแนวทางที่ดีในการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน
- ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล (Reduce Stress & Anxiety) การระบายสีเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้พนักงานได้ผ่อนคลายและลดความเครียดที่สะสมจากการทำงานหนัก สีที่ใช้ใน Color Therapy เช่น สีฟ้าและสีเขียว สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลของพนักงาน ซึ่งมีการวิจัยที่ระบุว่าการระบายสีก่อนนอนประมาณ 5 นาทีจะช่วยให้เราหลับสบายขึ้น
- ช่วยให้เราจดจ่อกับงานได้ดีขึ้น (Concentration) จากเดิมที่คนมองว่าการระบายสีเป็นเรื่องของเด็ก แต่ความจริงแล้วมีหนังสือระบายสีที่ทำขึ้นมาเพื่อกระตุ้นสมองสมองของคนวัยทำงานอยู่มากมายนับไม่ถ้วน การใช้สีในพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม เช่น การใช้สีที่ช่วยให้พนักงานรู้สึกสดชื่นและกระตือรือร้น สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ สีบางสี เช่น สีเหลืองและสีส้ม มีผลกระตุ้นสมองและช่วยให้พนักงานมีสมาธิและความจดจ่อกับงานได้ดีขึ้น
- ช่วยให้สมองได้พักผ่อน (Calm/Mindfulness) ปัญหาของการพักผ่อนคือพอเราเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอะไรบางอย่าง หัวสมองของเราจะไปโฟกัสกับสิ่งใหม่ทันที แต่การระบายสีจะช่วยให้เราลืมความเครียดไปเลย การระบายสีเป็นการฝึกสมาธิที่ดี ช่วยให้พนักงานได้มีโอกาสอยู่กับปัจจุบันขณะ และส่งเสริมความมีสติ สีที่มีโทนเย็น เช่น สีฟ้าอ่อนและสีเขียว สามารถช่วยให้สมองได้พักผ่อนและรู้สึกสงบมากขึ้น
มีองค์กรมากมายในโลกที่ใช้การระบายสีเป็นหนึ่งในหลักสูตรเวิร์กช็อป มีการจ้างศิลปินมาวาดลายเส้นเพื่อให้พนักงานลงสีในเนื้อหาที่ตรงกับความชอบส่วนตัว เพื่อโน้มน้าวให้พนักงานอยากทำกิจกรรมนี้มากขึ้น (Increase Engagement) และบางแห่งก็ทำกิจกรรมเป็นแบบกลุ่มให้พนักงานช่วยกันระบายสีในแผ่นภาพขนาดใหญ่ วิธีนี้จะช่วยในเรื่องของ Team Building ช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคนในทีมดีขึ้นกว่าเดิม
ที่มา hrnote