สิทธิประโยชน์และค่าชดเชย เมื่อโดนเลิกจ้าง

          สิทธิประโยชน์และค่าชดเชยเมื่อพนักงานถูกเลิกจ้าง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541

เงินชดเชย

          ค่าชดเชยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 หมายถึง เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง นอกเหนือจากเงินประเภทอื่น ซึ่งนายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้าง โดยพิจารณาอัตราค่าชดเชยตามอายุงานของลูกจ้าง โดยลูกจ้างจะต้องทำงานครบ 120 วันเป็นอย่างน้อย และลูกจ้างจะไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้

  • ลูกจ้างลาออกเอง

  • ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง เช่น โกงเงิน ยักยอกเงิน ฯลฯ

  • จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย

  • ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง

  • ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีร้ายแรง นายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือน

  • ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร

  • ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก

  • กรณีการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน และนายจ้างเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลานั้น ได้แก่ การจ้างงานในโครงการ งานอันมีลักษณะเป็นครั้งคราว และงานที่เป็นไปตามฤดูกาล

1. ค่าชดเชยตามกฎหมาย

          เมื่อถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดตามที่กฎหมายกำหนด นายจ้างจะต้องจ่ายค่าชดเชยให้พนักงานตามระยะเวลาการทำงาน ดังนี้:

  • ทำงานครบ 120 วัน แต่ไม่ถึง 1 ปี: ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 30 วัน

  • ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี: ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 90 วัน

  • ทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ถึง 6 ปี: ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 180 วัน

  • ทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี: ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 240 วัน

  • ทำงานครบ 10 ปีขึ้นไป: ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 300 วัน

2. ค่าชดเชยพิเศษ

          ในกรณีที่นายจ้างเลิกจ้างโดยเหตุจากการปรับปรุงการผลิต หรือปรับปรุงองค์กรเพื่อความทันสมัย และทำให้ต้องลดพนักงาน นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยพิเศษให้กับพนักงานที่ทำงานมาแล้วตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปในอัตราเท่ากับค่าจ้าง 15 วันต่อปี โดยไม่เกิน 360 วัน

3. ค่าจ้างค้างจ่าย

          นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างที่ค้างจ่าย ค่าทำงานล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด หรือค่าอื่น ๆ ที่ค้างจ่ายแก่พนักงานทั้งหมดในวันที่เลิกจ้าง

4. เงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (ถ้ามี)

          หากบริษัทมีการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นายจ้างต้องจ่ายเงินสะสมของพนักงานและเงินสมทบจากนายจ้างที่พนักงานมีสิทธิ์ได้รับตามกฎของกองทุน

5. สิทธิจากประกันสังคม

          พนักงานที่ถูกเลิกจ้างสามารถขอรับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมในกรณีว่างงาน ซึ่งจะได้รับเงินชดเชยจากสำนักงานประกันสังคม:

  • กรณีเลิกจ้าง: ได้รับ 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย (สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน) เป็นเวลาไม่เกิน 180 วัน

  • กรณีลาออกเอง: ได้รับ 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย (สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน) เป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน

6. การออกใบผ่านงาน (หนังสือรับรองการทำงาน)

          นายจ้างต้องออกใบผ่านงานหรือหนังสือรับรองการทำงานให้แก่พนักงานที่ถูกเลิกจ้างตามคำร้องขอของพนักงาน

การเลิกจ้างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากพนักงานพบว่าไม่ได้รับค่าชดเชยตามที่ควรจะได้รับ สามารถร้องเรียนต่อสำนักงานคุ้มครองแรงงานในพื้นที่ได้

 

ที่มา JobsDB