สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา เคยวางแผนการทำงานบ้างหรือไม่ ถ้างานเยอะจนสับสน ไม่รู้จะทำอันไหนก่อน เวลา 8 ชั่วโมงสำหรับการทำงานก็ยังไม่พอ นี่คือ 20 เคล็ดลับ ในการจัดสรรการทำงานอย่างเป็นระบบ และจะช่วยให้ทำงานเสร็จก่อนกลับบ้าน
1. ตั้งเป้าไปเลยว่าหลังเลิกงานคุณอยากไปไหน
การหาสิ่งมาล่อใจก็เป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่ง เพราะการมีเป้าหมายทุกวันจะช่วยให้คุณมีแรงทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าวันนั้นคือ วันศุกร์แห่งชาติ แค่คิดถึงเพื่อนๆ ที่จะเจอกันตอนเย็น คุณก็จะมีแรงฮึดขึ้นอีกเยอะ
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
อย่าบอกว่าทำงานเยอะจนไม่มีเวลาพักผ่อน เพราะไม่ว่าคุณจะทำงานกี่โมง สิ่งสำคัญที่สุดคือ การพักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ ตื่นเช้ามาจะได้มีแรงทำงานต่อ
3. ร่างกายต้องพร้อม
นอกจากจะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว การออกกำลังกายก็ต้องทำด้วย ถ้าสุขภาพกายพร้อม สุขภาพใจก็จะพร้อมตามไปด้วย ถ้าคุณมีสุขภาพที่แข็งแรง ก็จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และบรรลุเป้าหมายได้ทุกๆ วัน
4. ต้องมีเส้นตาย
ไม่ว่าหัวหน้าจะส่งงานล่วงหน้า 1 เดือน 1 สัปดาห์ หรือ 1 วัน วางเงินเดิมพันได้เลยว่า ยังไงคุณก็จะทำช่วงวินาทีสุดท้ายอยู่ดี ผลลัพธ์สุดท้ายคือ งานก็ต้องเสร็จแน่นอน
5. จัดลำดับความสำคัญของงาน
จดทุกอย่างที่ต้องทำไว้ โดยเรียงลำดับตามความสำคัญของงาน เมื่อทำเสร็จก็ขีดฆ่าไปเลย ช่วงเวลาที่ได้ขีดฆ่านั้น คุณจะมีความสุขอย่างมาก
6. ถ้าทำไม่ทันก็ต้องบอก
ปริมาณงานที่คุณได้รับต่อวันอาจจะมากเกินไป หรือไม่สามารถทำให้เสร็จได้ภายในวันเดียว ถ้าทำไม่ทันจริงๆ ก็ควรแจ้งหัวหน้างาน เพื่อให้เขาช่วยแก้ปัญหา ดีกว่าให้งานทั้งหมดมากองอยู่ที่คุณ จนส่งผลกระทบไปยังแผนกอื่นๆ
7. ปิด Social Media ให้หมด
ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, YouTube ฯลฯ ต้องปิดให้หมด เพราะสิ่งเหล่านี้จะรบกวนสมาธิการทำงานสุดๆ ถ้าคุณตั้งใจแล้วว่าต้องทำงานให้เสร็จภายในวันนี้ ก็ปิดการสื่อสารที่ไม่จำเป็นเสียก่อน
8. ใช้งานทีละแอพฯ
ถ้าจำเป็นต้องใช้แอพฯ เพื่อติดต่องานจริงๆ ก็ควรใช้แค่แอพฯเดียวเท่านั้น อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก เพราะอาจทำให้งานเกิดความผิดพลาดได้
9. ใช้หลัก Pareto
ใช้หลักการของพาเรโต โดยยึดหลัก 20/80 แบ่งออกเป็น 20% คืองานสำคัญ (80% ที่เหลือคืองานที่สำคัญรองลงมา) จาก 8-10 ชั่วโมงการทำงาน แล้วคิดดูว่า 80% ของเวลาทำงานในแต่ละวัน คุณให้ความทุ่มเทกับงานสำคัญ 20% นี้คุ้มค่าหรือยัง
10. ใช้ทักษะที่มีมาพัฒนาการทำงาน
ถ้าคุณทำงานที่เกี่ยวกับการให้บริการคนอื่นๆ คุณจะรู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นทุกวัน มีความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคุณสามารถนำทักษะเหล่านี้มาใช้พัฒนาตัวเอง สร้างแรงจูงใจให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเกิดความชำนาญแล้วคุณจะพบว่ามันง่ายมากที่จะทำงานให้มีความสุขทุกวัน ในส่วนของสายงานอื่นๆ ก็เช่นกัน
11. บล็อกเวลาไว้
บางคนอาจกำลังทะเลาะกับตัวเอง อีกใจก็อยากเม้าท์กับเพื่อนร่วมงาน อีกใจก็ต้องทำงานให้เสร็จ วิธีง่ายๆ คือ บล็อกเวลาสำหรับตัวเองไว้เลย “60 นาทีนี้ จะไม่มีการพูดคุย” ทำงานลูกเดียว
12. ทำงานแข่งกับเวลา
หลังจากตั้งเวลาไว้ 60 นาที ก็ลองแข่งกับเวลาดู ยิ่งคุณทำเสร็จเร็วเท่าไร ก็จะได้รีบไปเม้าท์กับเพื่อนเร็วเท่านั้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า คุณจะทำงานได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ
13. ทำทุกอย่างให้เป็นกิจวัตร
การเปลี่ยนนิสัยตัวเอง เป็นส่วนที่ยากที่สุด คุณจึงต้องมีความตั้งใจอย่างมาก จัดสรรเวลาให้ดี ทำทุกอย่างให้เป็นระบบ และทำอย่างต่อเนื่อง
14. เปลี่ยนสภาพแวดล้อม
การนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมทุกวัน ภาพตรงหน้าก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน การทำอะไรเหมือนเดิมซ้ำๆ ก็จะทำให้รู้สึกเบื่อได้ ลองยกแล็ปท็อปไปนั่งทำงานในร้านกาแฟ หรือมุมอื่นในสำนักงานเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานใหม่ๆ บ้าง
15. ออกกำลังกายตอนเที่ยงก็ไม่เลวนะ
ถ้าฟิตเนสอยู่ใกล้ที่ทำงาน จากเดิมที่เคยไปก่อนเข้างาน และหลังเลิกงาน ลองเปลี่ยนมาออกกำลังกายตอนเที่ยงดูบ้าง ตอนบ่ายพอกลับมาทำงานจะได้รู้สึกสดชื่น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
16. จดทุกอย่าง
บางครั้งความคิดดีๆ ก็มักจะมาตอนที่เรายุ่งๆ พอจะนำมาใช้ ก็ลืมไปแล้ว ทางที่ดีให้พกกระดาษ-ปากกา หรือสมาร์ทโฟนติดตัวไว้ เผื่อไอเดียเจ๋งๆ ผุดมาจะได้รีบจดไว้
17. แทนที่คำว่า “ทำไม่ได้” ด้วยคำว่า “ทำอย่างไร”
การเอาชนะความเบื่อหน่ายของการทำงานคือ การเอาชนะ อะไรที่คิดว่าทำไม่ได้ ก็ลองหาคำตอบว่า งานนี้ต้องทำอย่างไร ถ้ามัวแต่นั่งคิดว่างานนี้ยากเกินไป สุดท้ายแล้วงานก็จะไม่เสร็จ คุณต้องก้าวข้ามกำแพงที่บอกตัวเองว่า “ทำไม่ได้หรอก” ให้ได้ เพื่อขยายกรอบการทำงานเดิมๆ ให้กว้างขึ้น
18. คิดจะพัก ก็พักเลย
มีหลายคนที่พยายามฝืนตัวเอง แต่ถ้ามันมาถึงขีดสุดแล้ว ทำไม่ไหวจริงๆ ก็จงหยุดพัก พักสมอง พักสายตา จนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น และกลับมาทำงานต่ออีกครั้ง
19. จัดการเอกสารและอีเมล์วันละครั้ง
บังคับตัวเองไว้เลยว่าจะจัดการเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ และจะตอบอีเมล์ เวลาไหน ตอนเช้า เที่ยง หรือเย็น เลือกช่วงเวลาที่คุณสะดวก แล้วจัดการให้หมดภายในครั้งเดียว
20. ทานของว่างเพื่อสุขภาพ
สิ่งที่คุณทานเข้าไปในแต่ละวัน จะผลกระทบต่อร่างกายแน่นอน แทนที่จะกินแต่น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบต่างๆ ให้เปลี่ยนเป็นอาหารเพื่อสุขภาพดีกว่า เพราะส่วนมากหนุ่มสาวออฟฟิศจะไม่ค่อยได้ลุกจากเก้าอี้นัก จึงต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ ทั้งความเครียด โรคอ้วน หรือโรคออฟฟิศซินโดรม ถ้าไม่มีเวลาออกกำลังกาย ก็ใช้วิธีเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพแทนก็ได้
ที่มา marketingoops