5 สิ่งควรรู้ เกี่ยวกับค่ารับรอง

1. ค่ารับรองคืออะไร?

ในการทำธุรกิจบางครั้งกิจการอาจมีค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกค้าหรือเลี้ยงรับรองเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจเช่น ค่าที่พัก ค่าอาหารเลี้ยงลูกค้า ค่าเครื่องดื่มหรือค่ากระเช้าของขวัญที่มอบให้ลูกค้าในวันสำคัญ เป็นต้นซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวสามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้แต่จำนวนจำกัดและยังต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนดไว้ด้วย"จึงจะนำมาใช้ประโยชน์ทางภาษีได้

2. ต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้ค่ารับรองที่จ่ายไปนำมาเป็น คชจ ทางภาษีได้?

เพื่อให้ค่ารับรองที่จ่ายไปนั้นสามารถใช้ประโยชน์ทางภาษีได้สรรพากรได้มีกฎเกณฑ์หรือข้อกำหนดไว้ดังนี้

  • ค่ารับรองที่จ่ายไปนั้นต้องเกี่ยวเนื่องและอำนวยประโยชน์แก่กิจการ
  • จำเป็นตาบธรรมเนียมประเพณีทางธุรกิจทั่วไป
  • มีกรรมการ หุ้นส่วน ผู้จัดการ ผู้ได้รับมอบหมายเป็นผู้อนุมัติ
  • มีใบเสร็จรับเงินหรือหลักฐานการรับเงิน
  • บุคคลที่ได้รับการรับรองหรือรับบริการ "ต้องไม่ใช่พนักงานของบริษัท" ยกเว้นว่าพนักงานได้รับหน้าที่ให้เข้าร่วมในการรับรอง

3. มูลค่าของค่ารับรองใช้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้จำนวนกี่บาท?

ค่ารับรองที่สามารถมาหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้นั้นหักได้ตามจริงแต่ก็มีจำนวนจำกัด โดยค่ารับรองที่จ่ายไปนั้นต้องไม่เกิน

ร้อยละ 0.3 ของรายได้ทางภาษีหรือทุนชำระแล้วแล้วแต่จำนอนใดจะสูงกว่าแต่ทั้งหมดต้องไม่เกิน 10 ล้านบาท

*กรณีที่บริษัทให้เป็นสิ่งของ เช่น ซื้อกระเช้าวันปีใหม่ให้ลูกค้า จะมีกฎเกณฑ์เพิ่มขึ้นมาอีก นั่นคือ มูลค่าสิ่งของที่ให้นั้นต้องไม่เกิน 2,000 บาทต่อคนต่อครั้ง

4. ภาษีซื้อ(VAT)ที่เกิดจากค่ารับรองสามารถนำมาใช้ได้หรือไม่?

ภาษีซื้อของค่าร์บรองเป็นภาซื้อต้องห้าม ดังนั้นจะไม่สามารถมาหักภาษีขายหรือขอคืนได้ แต่สามารถนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้

ตัวอย่างเช่น

ค่ารับรองที่เกิดขึ้น 1,070 บาท แบ่งเป็นค่ารับรอง 1,000 บาทและภาษีซื้อ 70 บาท ภาษีซื้อ 70 บาทนั้นจะไม่สามารถนำมาหักภาษีขายหรือขอคืนได้ ให้ถือเป็นค่าใช้จ่ายไปเลยจำนวน 1,070 บาท

5. ตัวอย่างการคำนวนค่ารับรอง

บริษัท A มีรายได้ทางภาษี 3 ล้านบาท มีทุนชำระแล้ว 1 ล้านบาท

  1. จ่ายค่ารับรองลูกค้า เช่น ห้องพัก เครื่องดื่มไปทั้งหมด 13,000 บาทรวม VAT
  2. จ่ายค่ากระเช้าของขวัญให้ลูกค้า 2,000 บาทรวม VAT
  3. รวมค่ารับรองกั้งหมด 15,000 บาท

คำนวณมูลค่าค่ารับรอง

ร้อยละ 0.3 ของ
รายได้ทางภาษี ทุนชำระแล้ว

3 ล้านบาท * 0.3%

= 9,000 บาท

1 ล้านบาท * 0.3%

= 3,000 บาท

จำนวนที่สูงกว่าคือร้อยละ 0.3 ของรายได้ทางภาษีดังนั้นค่ารับรองที่เป็น คชจ ทางภาษี ได้นั้นต้องไม่เกิน 9,000 บาท

ส่วนที่เกินจำนวน 15,000 - 9,000 บาท = 6,000 บากเป็นค่ารับรอง เกินกฎหมายกำหนด ไม่สามารถนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้

ที่มา เพจ TaxBook ภาษีและบัญชีฉบับ101