เจาะลึกวิธีคิดสร้างโอกาสธุรกิจร้านอาหารให้เติบโตในยุคดิจิทัล

   ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะในโลกธุรกิจใช้เวลาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ในส่วนของธุรกิจอาหาร แม้จะเป็นตลาดใหญ่โดยมีการเติบโต 3-5% อย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันก็มีการแข่งขันสูง ทั้งจากคู่แข่งโดยตรง และจากสินค้าทดแทนที่มีอยู่จำนวนมาก ที่สำคัญคือพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบลองของใหม่ แม้ธุรกิจอาหารจะพอมีรูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นให้เห็นบ้าง เช่น โอมากาเสะ หรือ เชฟเทเบิ้ล นอกนั้นทุกคนยังคิดบนพื้นฐานเดิมเหมือนกันหมด นั่นเป็นสาเหตุให้ธุรกิจอาหารมีการแข่งขันที่รุนแรงอยู่ตลอดเวลา

โมเดลธุรกิจอาหารสามารถปรับได้หลากหลายรูปแบบ เราสามารถลองทำกับธุรกิจเดิมก่อนได้ เช่น

  • ช่วงที่ร้านคนไม่เยอะลองปรับเป็นเชฟเทเบิ้ล อาหารที่เน้นคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดมาปรุงให้กินโดยเชฟฝีมือดี 
  • เปิดคอร์สสอนทำอาหาร
  • รับจัดงานเลี้ยง เป็นอีกแนวที่มีโอกาสเสมอในบ้านเรา

ลองหาโมเดลให้เจอ ถ้าทำได้เราไม่ต้องมีหน้าร้านให้ต้องแบกรับต้นทุนค่าสถานที่ที่นับวันมีแต่จะสูงขึ้น และในอนาคตจะมีรูปแบบหลากหลายที่ธุรกิจอาหารไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเสมอไป แต่อาจต้องมีการสำรวจสถานที่ก่อนให้บริการจริง เพื่อตรวจสอบดูว่าสามารถให้บริการได้หรือไม่

4 กลยุทธ์สำคัญในการปรับโมเดลธุรกิจอาหารใหม่

  1. กลยุทธ์การเจาะตลาด (Market Penetration) คือ จะทำอย่างไรให้ลูกค้ากลุ่มปัจจุบันรู้จักและซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น อาจจะโดยการปรับราคา เช่น จัดเป็นเมนูเซ็ตคอมโบ หรือเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและทำการตลาดมากขึ้น
  2. กลยุทธ์การพัฒนาตลาด (Market Development) คือ จะทำอย่างไรให้สามารถใช้โอกาสจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แต่เดิม สามารถจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ได้มากยิ่งขึ้น
  3. กลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development) เป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ๆ ออกมาเพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีอยู่
  4. กลยุทธ์การแตกไลน์ธุรกิจใหม่ (Diversification) คือ การเติบโตด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมได้ เช่น การทำซัพพลายวัตถุดิบให้กับธุรกิจร้านอาหาร หรือไม่เกี่ยวกับธุรกิจเดิมเลยก็ได้

การดูแลรักษาลูกค้า

เมื่อธุรกิจร้านอาหารโตขึ้นเรื่อย ๆ การดูแลรักษาลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญลำดับถัดมา ที่จะทำให้ธุรกิจที่เติบโตนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง

- การเก็บฐานข้อมูลของลูกค้าไว้ได้มากที่สุด จะทำให้เราสามารถพัฒนาสินค้าและการบริการให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด จนก่อเกิดความ ประทับใจและบอกต่อ ซึ่งจะเป็นพลังในการสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ

- กิจกรรมที่จะสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้ดีจนก่อให้เกิดความภักดีต่อแบรนด์ ต้องเป็นกิจกรรมที่มีครบในเรื่องความสะดวก สนุก และสบาย

- ลูกค้าจะหยุดดูคอนเทนต์ที่เรานำเสนอ กดไลค์และกดแชร์ เมื่อไอเดียที่นำมาเล่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและสำคัญกับตัวเขา ภาพที่เล่าเรื่องต้องสอดคล้องกันในทุกโพสต์ และเล่าผ่านภาพซ้ำ ๆ เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์

ที่มา : www.smeone.info